ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 35.17 แข็งค่าจากวานนี้ เทขายดอลล์-เยนหันเข้าสินทรัพย์เสี่ยง,รอตัวเลขศก.สหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 7, 2016 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.17 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 35.20/22 บาท/ดอลลาร์ หลังนักลงทุนเทขายดอลลาร์และเยนเพื่อนำมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอื่นมากขึ้น

"บาทกลับมาแข็งค่า หลังมีแรงเทขายดอลลาร์และเยนเพื่อนำไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เมื่อคืนตลาดหุ้นนิวยอร์คเป็น บวก" นักบริหารเงินฯ กล่าว

นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 35.10-35.25 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทน่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ คืนพรุ่งนี้" นักบริหารเงินฯ กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.02 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 100.45 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1088 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1059 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2290 บาท/
ดอลลาร์
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.37% แตะที่
6.682 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเช้าวันนี้
  • ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐ ขานรับรายงานการประชุมประจำเดือน มิ.ย.ของ
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า คณะกรรมการเฟดเห็นพ้องให้ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าเฟดจะได้รับข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยว
กับผลกระทบจากการที่อังกฤษลงประชามติออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 56.5 ในเดือนมิ.ย. ซึ่ง
เป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากระดับ 52.9 ในเดือนพ.ค.

ขณะที่บริษัทมาร์กิต อีโคโนมิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคบริการของสหรัฐ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.4 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 51.3 ในเดือนพ.ค.

  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ขานรับรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) โดยดัชนีปิดที่ 17,918.62 จุด เพิ่มขึ้น 78.00 จุด หรือ +0.44% ส่วนดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,859.16 จุด เพิ่มขึ้น
36.26 จุด หรือ+0.75% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.73 จุด เพิ่มขึ้น 11.18 จุด หรือ +0.54%
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ โดยตลาดปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร อัน
เป็นผลมาจากความวิตกกังวลที่ว่า การที่อังกฤษลงมติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาค
ธนาคารในยุโรป โดยเฉพาะภาคธนาคารของอิตาลี
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมัน
ดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
ในเดือนมิ.ย.โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 47.43 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญา
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 84 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 48.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้ปัจจัยบวกจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุล
เงินหลักๆ หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า คณะกรรมการเฟดเห็นพ้องให้ชะลอ
การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่ามีข้อมูลบ่งชี้ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของ Brexit โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity
Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 8.40 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ระดับ 1,367.10 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ โดยเงินยูโรแข็ง
ค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1104 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1072 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะ
ระดับ 1.2922 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3024 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะ 0.7517 ดอลลาร์
สหรัฐ จากระดับ 0.7460 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 101.39 เยน จากระดับ 101.54 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ ระดับ 0.9743 ฟรังก์ จากระดับ 0.9769 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.2956 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2990 ดอลลาร์แคนาดา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ