ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.18 อ่อนค่าจากวานนี้ คาดระหว่างวันแกว่งแคบรอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 12, 2016 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.18 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ 35.12/14 บาท/ดอลลาร์

"เปิดตลาดเช้านี้บาทอ่อนค่าจากช่วงเย็นวานนี้ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวในลักษณะผสมผสาน ตลาดยังรอดูปัจจัย ใหม่เข้ามา" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 35.10-35.20 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางบาทวันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ เพราะหลังจากประกาศตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรฯ ของสหรัฐไปแล้วก็ยัง ไม่มีปัจจัยใหม่ที่สำคัญเข้ามา" นักบริหารเงินฯ กล่าว

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.10 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.26/29 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1055 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1029/1035 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.1140 บาท/
ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ชื่อกลุ่มงานดูแลเสถียรภาพทางการเงิน (Financial
Stability) เพื่อติดตามดูผลกระทบจากความเปราะบางของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในภาคส่วนต่างๆ ในระยะต่อไป ที่มี
ความไม่แน่นอนมากขึ้น เป็นการเตรียมตัวและสร้างภูมิคุ้มกันให้นโยบายการเงิน และรับมือกับเหตุการณ์ในอนาคต ไม่ให้มีจุดอ่อนไหวที่
อาจกระจายอยู่ในภาคเศรษฐกิจต่างๆ และอาจสะสมความเปราะบาง ถือเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยง ป้องกันไม่
ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นลามเป็นลูกโซ่
  • ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) วานนี้ ได้พิจารณาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐวิสาหกิจ
รวม 3 โครงการ ได้แก่ โครงการก่อสร้างสายเคเบิลใต้น้ำไปยังเกาะสมุย และเกาะเต่า ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)
โครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) และ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วง
บางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม ช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)
  • สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจปีหน้ามีโอกาสเติบโตได้ 4-5% ตามที่ รมว.คลังคาดหวังไว้
จาก 2 ปัจจัย คือ การลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่จะทำให้เกิด ปัจจัยที่สอง คือ การลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะ
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) มาช่วยขับเคลื่อนหลังจากหดตัวต่อเนื่อง
  • บอร์ด ททท.กังวลการเมืองไม่นิ่งหลังเลือกตั้ง เศรษฐกิจซึมยาว สั่งหั่นเป้ารายได้ใน ปท.ไม่ถึง 1 ล้านล้าน แค่
9.5 แสนล้าน โบรกฯประสานเสียงห่วงการเมืองเขย่าหุ้น แต่ต่างชาติเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยฟื้น โยกเงินลงทุนแล้ว 6.7 แสนล้าน ลุ้น
สิ้นปีดัชนีแตะ 1,550 จุด
  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่าททท.ได้มีการกำหนดเป้าหมายรายได้รวมของการท่องเที่ยวปี
2560 ไว้ที่ประมาณ2.89 ล้านล้านบาท จากตลาดต่างประเทศ1.87 ล้านล้านบาท ตลาดคนไทยเที่ยวในประเทศ 1 ล้านล้านบาท ซึ่ง
ตลาดต่างประเทศนั้น มีการแบ่งเป้าหมายเป็นรายภูมิภาค โดยตลาดยุโรปตั้งเป้าหมายทำรายได้ในสัดส่วน 35% เอเชีย 65%
  • บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกรายงานว่า การลงประชามติของสหราชอาณาจักรที่
ต้องการออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือเบร็กซิตนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตของประเทศในเอเชียแปซิฟิกมากนัก โดย
เฉพาะในแง่ของการค้า แต่จะกระทบต่อตลาดเงินตลาดทุนและประเทศที่พึ่งพาเงินทุนไหลเข้ามากกว่า
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และตลาดหุ้นสหรัฐ
ที่พุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX
(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 1.80 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ระดับ 1,356.60 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยว
กับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่า ไนจีเรียและซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)
ได้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน และรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ซึ่งระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นใน
สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 65 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 44.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญา
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 51 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 46.25 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลเยน ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ค.) เนื่อง

จากนักลงทุนคาดว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการกระตุ้นเศษฐกิจเพิ่มเติมหลังจากที่พรรคแกนนำรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของ

ญี่ปุ่นชนะการเลือกตั้งวุฒิสภา โดยเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1058 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1043

ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 102.79 เยน จากระดับ 100.54 เยน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ