นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.78/80 บาท/ดอลลาร์ จากเย็น วานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.75/79 บาท/ดอลลาร์
"ดอลลาร์มีการรีบาวน์ขึ้นมา ส่วนเงินบาทน่าจะยังแข็งค่าต่อ โดยคาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.75- 34.85"นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.65 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 102.20 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1168 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1172 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.7600 บาท/
ดอลลาร์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวล
เกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังคงเพิ่มกำลังการผลิต และสหรัฐเพิ่มการ
ขุดเจาะน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 40.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็น ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 42.14 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งรวมถึงตัวเลขการ
ใช้จ่ายด้านการก่อสร้างซึ่งร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ ระดับ 1,359.60 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ส.ค.) เนื่อง
จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้ว่าสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ก็ตาม
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 โดยปรับตัวลง 0.6%
ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2015 หลังจากร่วงลง 0.1% ในเดือนพ.ค.
- ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 52.6 ใน
เดือนก.ค. ลดลงจากระดับ 53.2 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 53
- บริษัทมูดี้ส์ อนาลิติกส์ ออกรายงานชี้ว่า แผนเศรษฐกิจของนางฮิลลารี คลินตัน ผู้แทนพรรคเดโมแครตในการชิง
ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้มากกว่าแผนเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกันในการ
ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวราว 2% ในช่วง
18 เดือนข้างหน้า โดยได้แรงหนุนจากการบริโภคที่เพิ่มขึ้น
- ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานว่า ยอดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ล่าสุดใน 6 เดือนแรก
ของปีนี้มีวงเงินเพียง 347 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.21 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนเปิดตลาด เมื่อวันที่ 1 ส.ค.
ที่ผ่านมา อยู่ที่ 34.79 บาท/เหรียญสหรัฐ ลดลงค่อนข้างมากประมาณ 91% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี 4,203 ล้านเหรียญ
สหรัฐ หรือประมาณ 1.46 แสนล้านบาท
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ชี้ส่งออกยังน่าห่วง สินค้าเกษตร-อุตสาหกรรมแผ่ว ห่วงเงินบาท
แข็งค่า เตรียมหารือ ธปท.เข้ามาช่วยดูแล เงินเฟ้อ ก.ค.ขยับเล็กน้อย 0.10% จับตาอาหารสด-ราคาน้ำมันกดดันเงินเฟ้อทั้งปีขยับ
ไม่เกิน 1%