ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.86/94 แนวโน้มแกว่งแคบ รอความชัดเจนผลประชามติสุดสัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 5, 2016 09:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.86/94 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.93 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากนักลงทุนต่างรอฟังผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่จะมี ขึ้นในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญ คือ คืนนี้สหรัฐจะมีการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.

"วันนี้บาทคงแกว่งแคบๆ ตลาดรอติดตามผลการลงประชามติวันอาทิตย์นี้ ส่วนปัจจัยต่างประเทศก็เป็นตัวเลข Nonfarm Payroll เดือนก.ค.ของสหรัฐ ที่จะประกาศคืนนี้" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.85-34.95 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.20 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 101.36 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินนยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1140 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1125 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.9450 บาท/
ดอลลาร์
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า ภาพรวมการส่งออกของประเทศไทยตลอดทั้งปี 2559 คาด
ว่าจะติดลบ 2% โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนสุดท้ายของปี แม้การส่งออกจะฟื้นตัวได้เล็กน้อยจากครึ่งปีแรกที่ติดลบ 1.59% แต่ประเทศ
ไทยก็ถือว่าติดลบน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในอาเซียน ดังนั้น สิ่งที่จะต้องติดตามคือ ค่าเงินบาท ที่เริ่ม แข็งค่ามาอยู่ระดับ
34.70 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ ที่ภาคเอกชนต้องการเห็นการแข็งค่าที่ระดับไม่เกิน 34.50 บาทต่อเหรียญ
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของเงินทุนจากต่างประเทศว่า ในช่วงที่ผ่านมา ประเทศ
ไทยมีเงินทุนจากต่างประเทศระยะสั้นเข้ามามากขึ้น ทั้งตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศเห็นว่าภูมิภาคนี้
ยังคงน่าลงทุนมากกว่าภูมิภาคอื่น ซึ่งไม่ใช่ไทยประเทศเดียวที่เงินไหลเข้ามา โดยในตลาดหุ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเงินเข้า 2,000
ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นเงินที่เข้ามาในเดือน ก.ค. ขณะที่ตลาดตราสารหนี้มีเงินเข้า 3,000 ล้านเหรียญ โดยประมาณ
700 ล้านเหรียญ เป็นเงินที่เข้ามาในเดือน ก.ค.
  • ส.ธนาคารไทย ประเมิน การลงประชามติฯ ไม่มีผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ และไม่มีผลต่อการลงทุนของต่าง
ชาติเพราะลงทุนยาว พื้นฐานเศรษฐกิจไทยแกร่งนักลงทุน อยากเห็นความแน่นอน ตามที่รัฐบาลวางไว้ตามโรดแม็พ
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ยืนยัน GDP ทั้งปีโต 3-3.5% เม็ดเงินลงทุน
ของภาครัฐเริ่มไหลเข้าระบบในช่วงครึ่งปีหลัง เผย 4 โครงการ มูลค่า 5 หมื่นล้าน กำลังก่อสร้าง รอผลประกวดราคาอีก 4.5
แสนล้านบาท ขณะที่บีโอไอ ระบุนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น ยื่นขอรับการส่งเสริมเกินคาดหมาย เชื่อทั้งปีตัวเลขรวมถึงเป้า
แน่
  • พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี มั่นใจไทยเดินหน้าสู่สังคมดิจิทัล ปี 2560 บรอดแบนด์หมู่บ้านชัดเจน
พร้อมมั่นใจรัฐบาลเปลี่ยนจุดอ่อนระบบราชการได้ ขณะที่ต่างชาติแนะเศรษฐกิจดิจิทัลต้องเริ่มจากผู้นำ
  • สุดสัปดาห์นี้ 7 สิงหาคม ชี้ชะตาผล "ประชามติ" รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
  • สกุลเงินปอนด์ร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) หลังจากธนาคาร
กลางอังกฤษ (BoE) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้ง
แรกในรอบกว่า 7 ปี
  • ธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศฟื้นโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 6 หมื่น
ล้านปอนด์ โดยการเพิ่มวงเงิน QE อีก 6 หมื่นล้านปอนด์ในการประชุมครั้งนี้ จะส่งผลให้วงเงินรวมในโครงการอยู่ที่ระดับ 4.35
แสนล้านปอนด์
  • นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค., ยอดส่ง
ออก นำเข้า และดุลการค้าเดือนมิ.ย. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนก.ค. โดยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. ซึ่งเป็นที่จับ
ตาของนักลงทุนทั่วโลกนั้น ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลัง
จากพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย.
  • สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า จีนเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 5.94 หมื่นล้านดอลลาร์ใน
ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.81 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1 ส่วนในครึ่งปีแรก จีนเกินดุลบัญชีเดินสะพัด 9.87 หมื่นล้าน
ดอลลาร์

SAFE ระบุว่าการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมีสาเหตุจากการเกินดุลการขายสินค้าจำนวนมาก ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.25 แสนล้าน ดอลลาร์ในไตรมาส 2 ขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้น 1.2%

  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า
เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.7% ในไตรมาส 3 ซึ่งการขยายตัวที่ 3.7% อยู่ในระดับสูงกว่าการคาดการณ์ที่ระดับ 3.6% ก่อน
หน้านี้ และสูงกว่าระดับ 1.2% ในไตรมาส 2
  • สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ภาวะเศรษฐกิจในยูโรโซนได้ย่ำแย่
ลงในไตรมาส 3 โดยดัชนีภาวะเศรษฐกิจในยูโรโซนร่วงลงสู่ระดับ 111.6 จุดในไตรมาส 3 จากระดับ 112.7 จุดในไตรมาส 2
ขณะเดียวกัน Ifo ยังระบุว่า ผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้ปรับตัวดีขึ้น โดยการฟื้นตัวในยูโรโซนยังคงดำเนินไปในไตรมาส
ปัจจุบัน
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับ
ภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินและการ
ผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 41.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 44.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ภาวะสมดุล

ระหว่างอุปทานที่เพิ่มขึ้นเพียงปานกลางและอุปสงค์ที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบ

40-50 ดอลลาร์/บาร์เรล ไปจนถึงช่วงปลายปี 2560


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ