ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.68/70 อ่อนค่าจากช่วงเช้าเล็กน้อย ยังรอปัจจัยใหม่ มองกรอบพรุ่งนี้ 34.55-34.75

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 17, 2016 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 34.68/70 บาท/ดอลลาร์ จากเปิด ตลาดที่ระดับ 34.64/66 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันทดสอบ Low 34.62 และ ทดสอบ High 34.70 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทกลับมาอ่อนเมื่อเทียบกับเมื่อวาน หลังจากไปแถวๆ 34.50 แล้วไม่ผ่าน ไปทำ Low 34.53 วันนี้ก็มา Test แถวแนวต้าน 34.70 ต้องรอดูว่าจะผ่านหรือไม่" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ระหว่าง 34.55-34.75 บาท/ดอลลาร์

"ข้างบนมองถึง 34.80 แต่คาดว่าจะไปทดสอบแนวต้านแรก 34.75 ก่อน โดยยังรอปัจจัยใหม่ๆ" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.76 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 100.50 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1268 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1285 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,531.63 จุด ลดลง 5.89 จุด, -0.38% มูลค่าการซื้อขาย 60,261.74 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,277.48 ลบ.(SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันนี้ยังไม่มีวาระพิจารณาข้อเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้กำหนดวันที่
27 ก.ย.เป็นวันหยุดราชการและให้วันที่ 26 ก.ย.เป็นวันหยุดพิเศษเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวหลังเกิดระเบิดในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งข้อ
เสนอดังกล่าวเป็นแนวคิดของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) แต่อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายเกี่ยวกับเรื่องดัง
กล่าวแล้วว่าจะคำนึงถึงเรื่องท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องคำนึงถึงผลกระทบด้านอื่นๆ ประกอบด้วย
  • กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหลายฝ่ายเริ่มกังวลว่าจะกระทบต่อเศรษฐกิจ
และเป้าหมายการส่งออกของไทยว่า ไม่อยากให้ตื่นตระหนกจนเกินไป เพราะค่าเงินบาทแข็งค่าในช่วงสั้นๆ ยังไม่มีสัญญาณรุนแรง
อะไร และผู้ประกอบการยังสามารถบริหารจัดการได้ ไม่มีการร้องขอให้ภาครัฐเข้าไปดูแล ซึ่งกระทรวงฯ ติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่น่า
จะมีผลกระทบต่อการส่งออกและเศรษฐกิจไทย
  • บลจ.อเบอร์ดีน เปิดเผยในงาน"ผู้จัดการกองทุนมองตลาดหุ้นไทย ไตรมาส 3"ว่า มุมมองตลาดหุ้นไทยในระยะยาว
ยังมีมุมมองเชิงบวก โดยตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ หลังจาก
อังกฤษลงประชามติให้ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) ประกอบกับ สภาพคล่องในประเทศยังคงมีอยู่มาก และ
ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ รวมไปถึงการบริโภคและอุปโภคในประเทศปรับตัวดีขึ้น ทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
เงินฝาก
  • ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวถึงการจัดทำงบประมาณแบบสมดุลว่า คงต้องรอดูสถานการณ์อีกสักระยะหนึ่งว่า
รายได้ที่เข้ามาเพียงพอกับค่าใช้จ่ายหรือไม่ ประกอบกับสภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีความผันผวน
  • รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 3 ส.ค.59 ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมาเงิน
บาทโน้มแข็งค่าขึ้น และอาจไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย คณะกรรมการฯ จึงจะติดตามพัฒนาการของเศรษฐกิจการเงิน
โลก รวมทั้งภาวะการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนของไทยอย่างใกล้ชิด
  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่น กล่าวในวันนี้ว่า รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการรับมือ ในกรณีที่ตลาดเงิน
เกิดความผันผวน โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังดอลลาร์ดิ่งลงแตะกรอบกลาง 99 เยนเป็นช่วงสั้นๆ เมื่อคืนนี้
  • สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เปิดเผยว่า แม้ว่าบริษัทด้านการลง
ทุน 2 รายใหญ่ของรัฐบาลสิงคโปร์ได้รายงานตัวเลขผลตอบแทนการลงทุนแท้จริงที่ปรับตัวลดลง แต่ก็น่าจะส่งผลกระทบต่อฐานะการ
คลังของประเทศในวงจำกัดในอนาคตอันใกล้ ไปจนถึงระยะกลาง โดยมูดี้ส์ได้ประเมินฐานะการคลังจากการคาดการณ์ของจีไอซี และ
เทมาเสก โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทในสังกัดของรัฐบาลสิงคโปร์ โดยทั้งสองบริษัทมองว่าในอนาคตข้างหน้าผลการดำเนินงานน่าจะอ่อน
แรงลงและมีความผันผวนยิ่งขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ