ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 34.57/59 แข็งค่าหลังเงินดอลล์อ่อนตัวจากเฟดไม่ชัดเจนขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 18, 2016 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.57/59 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.68/70 บาท/ดอลลาร์ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงินของ ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

"บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์อ่อนค่าเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟดยังเสียงแตกเรื่องการ ปรับขึ้นดอกเบี้ย เพราะยังกังวลเรื่องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจึงขอรอดูความชัดเจนก่อน" นักบริหารเงินฯ กล่าว

นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 34.50-34.70 บาท/ดอลลาร์

"บาทแข็งค่าลงมามากแล้ว วันนี้มีโอกาสที่จะกลับมาอ่อนค่าได้" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.80/85 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 101.76 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1292/1305 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1268 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.6530 บาท/
ดอลลาร์
  • หอการค้าไทยแถลงแนวโน้มธุรกิจไทยในปี 59 และประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ระเบิดในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้
ต่อธุรกิจไทย
  • China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 2.17% แตะที่
6.6273 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐเช้าวันนี้
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประ
จำเดือนก.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่ากรรมการเฟดยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้
ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังจากมีรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกใน
รอบ 4 สัปดาห์ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,573.94 จุด เพิ่มขึ้น 21.92 จุด หรือ +0.12% ดัชนี NASDAQ ปิดที่
5,228.66 จุด เพิ่มขึ้น 1.55 จุด หรือ +0.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,182.22 จุด เพิ่มขึ้น 4.07 จุด หรือ +0.19%
  • ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการ
ที่นักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค. โดยดัชนี Stoxx
Europe 600 ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 340.47 จุด ขณะที่ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,417.68 จุด ลดลง 42.76 จุด
หรือ -0.96% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,537.67 จุด ลดลง 138.98 จุด หรือ -1.30%
  • ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดพุ่งขึ้นเป็นเวลาหลายวันในช่วงก่อน
หน้านี้ นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินปอนด์ยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงด้วย โดยดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง
34.77 จุด หรือ 0.50% แตะที่ 6,859.15 จุด
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของ
รัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลาย
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 46.79
ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 49.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะ
เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค. โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง
8.1 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ระดับ 1,348.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 22.6 เซนต์ หรือ
1.14% ปิดที่ 19.648 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.84% ปิดที่ 1,114.7
ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 13.40 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 691.70 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (17 ส.ค.) หลัง
จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า กรรมการเฟดยังคงมีความคิดเห็นที่แตก
ต่างกันเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
  • ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดลบ 95.73 จุด หรือ -0.57% แตะที่ 16,649.91 จุดในวันนี้ หลังจากเงินเยนแข็ง
ค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ