คลัง มั่นใจศก.H2/59 ยังเติบโตดี จากปัจจัยบวกรัฐอัดงบลงทุนโครงการใหญ่-มาตรการกระตุ้นศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 18, 2016 16:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะเติบโตได้ดี จากปัจจัยบวกที่ทำให้ฟื้นตัวดีขึ้น โดยเห็นได้จากการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาสที่ 2 ที่ขยายตัวได้ 3.8% ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ภาคการเกษตรที่ฟื้นตัว ทำให้มีการบริโภคสินค้าคงทนมากขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวก็ยังขยายตัวดี รวมถึงการเบิกจ่ายของรัฐที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งหมดเกิดจากมาตรการของรัฐที่วางแผนในระยะสั้นและยาวเพื่อทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามคาด แม้ว่าการส่งออกยังติดลบ แต่ยังถือว่าติดลบน้อยกว่าประเทศอื่น และการลงทุนภาคเอกชนจะยังชะลอตัวก็ตาม

"เนื่องจากมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ 3-4 โครงการ เช่น โครงการทางพิเศษบางปะอิน-นครราชสีมา และสุวรรณภูมิเฟส 2 รวมถึงการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเหลื่อมปี เพื่อให้การลงทุนภาครัฐเป็นตัวหนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามคาด"รมช.คลัง กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนาวิชาการของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ประจำปี 2559 เรื่อง "โลกเปลี่ยน คลังปรับ"

นอกจากนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามเข้ามาดูแลเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการให้สินเชื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งผ่านการลงทุนในระดับชุมชุน ผ่านการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้าน รวมถึงการส่งเสริมภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งถือเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญเช่นกัน ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะมีแนวโน้มที่สดใสมากขึ้น หลังจากมีการชะลอตัวลงภายหลังจากการหมดอายุมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์จากรัฐบาล

สำหรับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนในขณะนี้มีการปรับตัวดีขึ้น มาอยู่ที่ระดับ 66.7% จากเดิมอยู่ที่ 81% เนื่องจากมีการแยกสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อการค้า ที่มีการประเมินว่ายังมีโอกาสในการเติบโตต่อได้และมีหลักทรัพย์ค้ำประกันออกไป รวมไปถึงรัฐบาล โดยกระทรวงการคลังยังได้เร่งดำเนินนโยบายเพื่อสังคม โดยการเตรียมมาตรการรองรับสังคมผู้สูงอายุที่จะเพิ่มมากขึ้น โดยมีการประเมินว่า ในปี 2568 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุสูงขึ้น 20% ซึ่งในส่วนนี้หากไม่มีการเตรียมพร้อมรับมือก็จะส่งผลกระทบต่อภาคการคลัง และการใช้จ่ายของรัฐบาลในระยะต่อไป

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ไม่ได้สร้างภาระให้ภาคการคลัง เพราะกระทรวงการคลังเป็นเพียงผู้สนับสนุนด้านมาตรการภาษี ขณะที่กลไกในการขับเคลื่อนหลักยังเป็นหน้าที่ของภาคเอกชน ซึ่งยุทธศาสตร์ดังกล่าวจะทำให้ลดภาระการคลังในระยะยาวได้อีกด้วย

ขณะที่นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผลการศึกษาของนักเศรษฐศาสตร์ของ สศค. ในเรื่องการส่งเงินสมทบภาคครัวเรือน เพื่อช่วยลดภาระของรัฐบาลจัดสรรงบประมาณผ่านกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในการกู้เงินกับนักเรียน นักศึกษา แต่ต้องนำไปสู่การศึกษาเพิ่มเติมและเสนอระดับนโยบายให้ตัดสินใจนำไปสู่การปฏิบัติ

ขณะที่กระทรวงการคลังเตรียมผลักดันร่าง พ.ร.บ.การเงินการคลัง เพื่อความยั่งยืนในอนาคต หลังจากร่างรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบจากการลงประชามติ เพื่อต้องการปฏิรูปการเงินการคลังในหลายด้าน ทั้งการกำหนดชดเชยเงิน อัตราดอกเบี้ยให้แบงก์รัฐหรือหน่วยงานต่างๆ อย่างชัดเจน หลังจากได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล ข้อกำหนดในการรักษาวินัยทางการคลัง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ