(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.61/63 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 34.55-34.70

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 19, 2016 11:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.61/63 บาท/ดอลลาร์ ใกล้ เคียงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.60 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะทรงตัวในกรอบแคบๆ เพราะยังไมี่มีปัจจัยที่สำคัญมากนัก น่าจะเป็นการขยับตามแรงซื้อขายใน ระหว่างวัน ขณะที่เมื่อวานนี้มีการเผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

"บาทวันนี้คงนิ่งๆ ยังไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจอะไรที่น่าสนใจออกมาในวันนี้ บาทคงน่าจะขยับตามแรงซื้อขายมากกว่า" นัก
บริหารเงินกล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.55-34.70 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.6367 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (18 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.36238% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (18 ส.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.59617%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.27/29 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 100.32 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1336/1338 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1314 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ 34.5800 บาท/ดอลลาร์
  • บล.ภัทร ได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) ในปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น
3.2% จากเดิมประเมินไว้ที่ 2.8% หลังจากจีดีพีในไตรมาส 2 เติบโตถึง 3.4% มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ และน่าจะเกิดแรงขับเคลื่อน
ต่อเนื่องไปถึงในไตรมาส 3 ด้วย ซึ่งการเติบโตดีมาจากการลงทุนภาครัฐ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และการท่องเที่ยว
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 2559 ของ สศค. เรื่อง "โลกเปลี่ยน
คลังปรับ" ว่า ความท้าทายจากภายนอก ที่เป็นโจทย์สำคัญที่ต้องรับมือมี 4 ประเด็นหลัก คือ 1.เศรษฐกิจโลกผันผวน ที่ไม่เอื้อให้
เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว 2.การค้าการลงทุนที่เข้มข้น 3.เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าซึ่งไทยต้องเรียนรู้ให้ทันเพื่อพลิกโฉม
เศรษฐกิจไทย 4.สังคมและสิ่งแวดล้อมต้องยั่งยืน ซึ่งจะทำให้เกิดภาระการคลังตามมา จำเป็นต้องมีนโยบายและเครื่องมือมาดูแล
  • ที่ประชุมสมาคมธนาคารไทยเห็นชอบร่วมกันให้มีการ เตรียมออกแพ็กเกจสินเชื่อช่วยเหลือ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง
กับการท่องเที่ยวทั้งหมด เช่น เงินกู้สำหรับโรงแรมหรือรีสอร์ท ที่ต้องการขยายที่พักเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 21 ก.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า ที่ประชุมมองว่า
การที่อังกฤษลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้ส่งผลกระทบจำกัดอยู่แต่ในอังกฤษ โดยไม่ได้ลุกลามในวงกว้าง
แม้ยังคงมีความไม่แน่นอนที่ว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในอนาคตหรือไม่
  • ผลการสำรวจของ Ipsos MORI ระบุว่า ชาวอังกฤษที่มีมุมมองในแง่ลบต่อเศรษฐกิจ มีจำนวนลดลงในเดือนส.ค.
โดยชาวอังกฤษที่คาดว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่ลงในปีหน้ามีจำนวน 43% ลดลงจากจากเดิมที่มีการสำรวจในเดือนก.ค.ที่ 57% ทั้งนี้ ผล
สำรวจดังกล่าวบ่งชี้ว่าผลกระทบระยะสั้นต่อผู้บริโภคจากการที่อังกฤษลงประชามติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) มีน้อยกว่าที่
คาดไว้ ขณะที่ชาวอังกฤษที่คาดว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาที่ 28% จากเดิมที่ 23%
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์
ที่แล้ว โดยลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 262,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ส.ค.
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์
ที่แล้ว โดยลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 262,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ส.ค. ทั้งนี้ จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการ
ว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 76 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1973
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) โดยดอลลาร์
ยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่าเฟดยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน
ระยะนี้
  • ตลาดจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26 ส.ค.
นี้ ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยอาจมีการ
ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า
ลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ ตลาดยังคงขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ
(EIA) ที่ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.43
ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 48.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 50.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • นักลงทุนจับตาการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้

อย่างใกล้ชิด หลังจากที่การเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ต่างจบลงด้วยความล้มเหลว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ