ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.63/65 ทรงตัว-flow ไม่มาก สัปดาห์หน้าจับตาถ้อยแถลงประธานเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 19, 2016 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.63/65 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียง จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.61/63 บาท/ดอลลาร์

ตลอดทั้งวันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เพราะวันนี้ไม่ค่อยมีปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อเงินบาท ประกอบกับ Flow ไม่ค่อยมีเข้ามามากนัก จึงทำให้เงินบาทช่วงเย็นไม่เคลื่อนไหวไปจากช่วงเช้ามากนัก

"วันนี้บาทแกว่งแคบๆ ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไรมาก Flow ก็ไม่ค่อยมาก บาทแค่ move จากเช้าเล็กน้อย" นักบริหารเงิน
ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.55 - 34.65 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วง ปลายสัปดาห์หน้าต้องติดตามถ้อยแถลงของนางเจนเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ว่าจะส่งสัญญาณในเรื่องของ อัตราดอกเบี้ยอย่างไร

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.18/21 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 100.27/29 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1316/1320 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1336/1338 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,538.76 จุด ลดลง 8.25 จุด (-0.53%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 51,398 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 487.89 ลบ.(SET+MAI)
  • ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่เอกชนเสนอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลอยตัวค่าเงินบาทว่า ไม่
เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เนื่องจากค่าเงินบาทของไทยในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงตามกลไกตลาด และมีความเหมาะสมและดีอยู่แล้ว
ซึ่งการกลับไปลอยตัวหรือคงค่าเงินบาท จะเป็นการดำเนินการที่สวนทางกับตลาดและกระแสโลก

พร้อมมองว่า ปัจจุบัน ธปท.ได้ดูแลการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด ขณะที่กระทรวงการคลังได้สนับสนุน มาตรการดูแลการเคลื่อนย้ายเงินทุนตั้งแต่ระดับเบา กลาง และระดับหนัก ซึ่ง ธปท.จะเป็นผู้ตัดสินใจใช้มาตรการให้เหมาะสมกับ สถานการณ์

  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) ระบุว่า จากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่คาดว่า
กระเตื้องขึ้นได้อย่างช้าๆ บวกกับปัจจัยเสี่ยงของผู้ประกอบการที่ถูกกระทบในเรื่องการกีดกันการค้า ภาวะการแข่งขันสูงในตลาดโลก
และปัญหาโครงสร้างการผลิตของไทยที่ปรับตัวไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก ทำให้ประเมินว่าการส่งออกในครึ่งหลังปีนี้จะหด
ตัว 1.9% จากผลกระทบด้านราคาสินค้าส่งออกที่คาดว่าจะหดตัวต่อไปได้อีก แต่เป็นอัตราที่น้อยกว่าครึ่งปีแรก จากราคาสินค้าเกษตรที่
เริ่มกระเตื้องขึ้นเป็นลำดับจากไตรมาสแรกของปี
  • นายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า รฟม.ได้เสนอ
โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กม. วงเงินลงทุนรวม 131,171.94 ล้านบาท
ไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่าจะเสนอเข้า ครม.ได้ในเดือน ต.ค.นี้ หลังจากนั้นจะใช้
เวลา 2 เดือนจัดทำราคากลางเสนอคณะกรรมการ รฟม.พิจารณา และน่าจะเปิดประมูลได้ต้นปี 60
  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยสถิติการจดทะเบียนธุรกิจเดือน ก.ค.59 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน
บริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ 4,919 ราย ลดลง 9% เทียบกับเดือนก.ค.58 และลดลง 17% เทียบกับเดือนมิ.ย.59 โดยมีทุนจด
ทะเบียนจัดตั้งใหม่มูลค่า 15,425 ล้านบาท ขณะที่การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ค.59) มี
จำนวนทั้งสิ้น 36,711 ราย ลดลง 0.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา สาเหตุที่การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนก.ค.59 ลดลง
เพราะมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ทำให้เหลือวันทำการเพียง 18 วัน
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจได้รับความเสียหายหาก
เฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานานเกินไป แม้ว่าตัวเขาเองนั้นไม่รีบที่จะขึ้นดอกเบี้ย พร้อมมองว่าเมื่อพิจารณาในแง่ของเศรษฐกิจ
แล้ว เดือนก.ย.ดูมีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยเฟดมีกำหนดการประชุมนโยบายครั้งต่อไปวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
  • นายอลัน กรีนสแปน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่าเฟดน่าจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอัน
ใกล้ เนื่องจากหากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับเดิมนานเกินไป เศรษฐกิจสหรัฐอาจประสบกับภาวะซบเซา ประกอบกับเงินเฟ้อ
ที่ปรับตัวสูงขึ้น
  • ซาอุดิอาระเบีย เพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันกลั่นแตะ 8.83 บาร์เรล/วัน ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา จาก
ที่โดยปกติแล้ว ประเทศจะปรับลดการส่งออกน้ำมันในช่วงมิ.ย.-ก.ย. เนื่องจากต้องสงวนไว้สำหรับการผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศ
เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงฤดูร้อน

โดยยอดส่งออกน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นในเดือนมิ.ย.บ่งชี้ว่าซาอุฯ ผลิตน้ำมันมากเป็นพิเศษจนสูงกว่าความต้องการใช้ภายใน ประเทศในเดือนดังกล่าว และการปรับเพิ่มการส่งออกยังเป็นสัญญาณล่าสุดของการเดินหน้าขยายส่วนแบ่งในตลาดโลกของซาอุฯ ด้วย

  • สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค.ขยับขึ้น 0.2% จากเดือนก่อนหน้า

แต่หากเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI เดือนก.ค.ปรับตัวลง 2.0% ทั้งนี้ ราคาพลังงานปรับตัวลง 6.2% เมื่อเทียบรายปี โดยเป็นปัจจัยที่

มีส่งผลต่อดัชนี PPI มากที่สุดในเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ