นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.63 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.65/67 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค เนื่องจากมีแรงเทขาย ดอลลาร์ออกมา
"บาทเคลื่อนไหวตามภูมิภาคหลังมีแรงเทขายดอลลาร์ออกมาทำกำไรในช่วงสั้นๆ ทิศทางบาทวันนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ แคบๆ รอฟังเยเลน(นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ-เฟด)คืนวันศุกร์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 34.60-34.70 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.14 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 100.62/64 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1325 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1295/1297 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ 34.7060 บาท/ดอลลาร์
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สภาผู้ส่งออก) ระบุ ขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นจากต้นปีประมาณ 3.5% ซึ่ง
เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าให้สูงขึ้น ทำให้ตอนนี้อุตสาหกรรมไทยค่อนข้างแข่งขันลำบาก สำหรับด้านของธนาคาร
แห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่มีมาตรการดูแลเรื่องค่าเงินอยู่แล้วนั้น อาจต้องกำกับให้มาตรการสามารถใช้ได้ผลจริง และดูแลเรื่องค่า
เงินอย่างใกล้ชิด
- กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปี 59 ถึงปัจจุบัน มีกระแสเงินทุนต่างชาติ
ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากกว่า 110,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงปัจจุบัน เงินทุนต่างชาติก็ยังไหลเข้าต่อเนื่อง
เนื่องจากเศรษฐกิจของอาเซียนขยายตัวได้ดี และผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนของไทยออกมาดีที่สุดในอาเซียน หลังจากที่
อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2 ขยายตัวสูงถึง 3.5% จากไตรมาส 1 ที่โต 3.2% จึงมั่นใจว่า จีดีพีทั้งปีจะโตได้
มากกว่า 3% และจะเป็นผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย ซึ่งขณะนี้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์กำลังอยู่ระหว่างทบทวน
ข้อมูล เพื่อปรับเพิ่มประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน
- กรมธนารักษ์จะเสนอคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อขอให้จัดตั้งเมือง
การค้าชายแดน (Border Town) เป็นแหล่งการค้าขายแห่งใหม่ ตามแนวชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้านตามนโยบายนายภิศักดิ์
ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ได้ศึกษาเรื่องการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้
นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต) ที่เกิดจากการค้าขายในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่กรมธนารักษ์ในฐานะที่ดูแลที่ราชพัสดุทั่วประเทศ จะเป็น
หน่วยงานในการกำหนดพื้นที่ที่ได้รับการยกเว้นภาษี
- กรมการค้าต่างประเทศ ระบุช่วงครึ่งหลังของปีนี้กรมจะเร่งกระตุ้นการค้าตามชายแดนให้มากขึ้น เพื่อให้การค้าชาย
แดนปีนี้มีมูลค่าถึง 1.7 ล้านล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะให้ความสำคัญกับการค้าตามด่านการค้ารองให้มากขึ้น จากเดิมที่
เน้นตามด่านการค้าชายแดนหลักๆ รวมทั้งเน้นการจัดมหกรรมการค้าชายแดนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งจะเน้นการเชื่อมโยงการค้าจาก
ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อเชื่อมโยงไปสู่ประเทศที่ 3 โดยเฉพาะอินเดีย จีน เพื่อสร้างมูลค่าการค้าชายแดน
ให้สูงขึ้น
- แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า รัฐบาลมีแผนที่จะใช้จ่ายงบประมาณ 4.52 ล้านล้านเยน (4.5 หมื่นล้านดอลลาร์)
สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายใต้งบประมาณเสริมฉบับที่ 2 สำหรับปีงบประมาณ 2016
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) หลังจากมีรายงานว่า แท่นขุด
เจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยว
กับภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 1.47 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 47.05 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 49.16 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากคาดการณ์ที่ว่า นางเจเน็ต เย
ลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน
โฮล ในวันศุกร์นี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.8 ดอลลาร์ หรือ
0.21% ปิดที่ระดับ 1,343.4 ดอลลาร์/ออนซ์
- สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ส.ค.) โดยได้
แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล ในวันศุกร์นี้ โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 100.29
เยน จากระดับ 100.21 เยน ส่วนเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1320 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1325
ดอลลาร์สหรัฐ