นักบริหารเงินจากธนาคารกรุศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 34.59/61 บาท/ดอลลาร์ จาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 34.61/65 บาท/ดอลลาร์
"เมื่อคืนตัวเลข ISM ของสหรัฐฯออกมาไม่ค่อยดี ทำให้ก่อนหน้านี้ที่เงินบาทขึ้นไปทำ High 34.66 พอตัวเลขไม่ดีก็ร่วง มาที่ 34.59 และเช้านี้ก็เปิดที่ 34.59 คืนนี้รอดูตัวเลข Non Farm Payroll ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ชัดเจนขึ้นต่อการตัดสินใจเกี่ยว กับดอกเบี้ยของเฟด เพราะตลาดยังมองว่าโอกาสที่จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยยังเยอะกว่า ถ้า Non Farm ออกมาดี ดอลลาร์น่าจะถูกซื้อกลับ ขึ้นไป" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50 - 34.70 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.6050 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (1 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.34043% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (1 ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.57791%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.35 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 103.50 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1200 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1130 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.6270 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานฐานะดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายในเดือน ก.ค. 2559 ว่า มีการไหลออก
สุทธิ 2,534 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8.8 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนเปิดตลาดช่วงเช้าวันที่ 1 ก.ย. ที่ระดับ
34.62 บาท/เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการไหลออกที่เพิ่มขึ้นจากเดือน มิ.ย. ที่ไหลออกสุทธิ 435 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.5
หมื่นล้านบาท
- ธปท. เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ พบดัชนี BSI ในเดือน ส.ค.ลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 47.8 เหตุผู้
ประกอบการกังวลสัญญาณการฟื้นตัวล่าช้าของเศรษฐกิจใน-นอกประเทศ ขณะที่ดัชนี BSI ในอนาคตขยับขึ้นเป็นเดือนที่สองมาอยู่ที่
ระดับ 54.7 ส่วนใหญ่ภาคธุรกิจมองเริ่มเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มั่นใจท่องเที่ยวไทยโกยรายได้ทะลุเป้า มองมีโอกาสพุ่งถึง 2.58 ล้านล้าน
บาท เพิ่มขึ้น 14% โชว์ 3 ไตรมาสของปีนี้อยู่ที่ 1.88 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวจีน ทะลักเข้าเพิ่มขึ้น 17% เชื่อไตรมาส 4 ยังเติบ
โตต่อเนื่อง แม้รัฐออกมาตรการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญเข้มข้น
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สรุปยอดขายพันธบัตรออมทรัพย์ปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท
ซึ่งปิดจำหน่ายเมื่อ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา สามารถจำหน่ายได้ 1.9 หมื่นล้านบาท หรือ 95% เหลือ 927 ล้านบาทของวงเงิน ที่ออก
จำหน่าย
- กระทรวงการคลัง รายงานการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2559 ของหน่วยงานที่ได้งบเกิน 1,000 ล้าน
บาท ทั้งหมด 36 หน่วยงาน วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท เบิกจ่ายจนถึงวันที่ 26 ส.ค. 2559 ได้แล้ว 2.49 แสนล้านบาท หรือ
71.18% ของงบลงทุนที่ได้จัดสรรทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีงบลงทุนที่ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันแล้วยังรอการเบิกจ่าย 6.26 หมื่นล้านบาท
เมื่อรวมกับงบลงทุนที่เบิกจ่ายไปแล้วจะมีจำนวน 3.11 แสนล้านบาท หรือ 89.06% โดยอีก 1 เดือนที่เหลือของปีงบประมาณ 2559
การทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันรวมกับการเบิกจ่ายงบลงทุนจะสูงเกิน 90%
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้นน้อย
กว่าตัวเลขคาดการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 263,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 ส.ค.
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐทรงตัวในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน
หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย.
- ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM อยู่ที่ระดับ 49.4 ใน
เดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 52.6 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 52.2
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) หลัง
จากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตหดตัวลงในเดือนส.ค. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนมองว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับ
ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้มีน้อยลง ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.27 เยน จากระดับ 103.44 เยน และ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ รายงานดัชนีภาคการผลิตที่หดตัวลงของสหรัฐนั้น ทำให้นักลงทุนมองว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตรา
ดอกเบี้ยในเดือนนี้มีน้อยลง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์
หรือ 0.43% ปิดที่ 1,317.1 ดอลลาร์/ออนซ์
- นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า ตลาดแรงงานสหรัฐกำลัง
อยู่ในภาวะแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ และเฟดจำเป็นต้องเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป