ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.92/93 กลับมาอ่อนค่า รอความชัดเจนผลประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 15, 2016 18:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 34.92/93 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.85 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาททดสอบ Low 34.85 บาท/ดอลลาร์ ทดสอบ High 34.96 บาท/ดอลลาร์

"หลังจาก กนง.คงดอกเบี้ยและปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจไทยวานนี้ ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าลงไปทดสอบแนวรับ แถวๆ 34.85 แล้วก็เด้งไปแถวๆ High ..ต้องดูว่าจะทะลุ 35.00 และยืนเหนือได้หรือไม่ ถ้ายืนไม่ได้มีโอกาสจะลง แล้วก็ยังต้อง รอดูผลการประชุมของเฟดในสัปดาห์หน้า ถ้าเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยน่าจะมีแรงขายออกมา เงินบาทน่าจะลงไปแถวๆ 34.7 ต้นๆ" นัก บริหารเงิน กล่าว

สำหรับวันพรุ่งนี้ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท แนวรับ 34.85 บาท/ดอลลาร์ แนวต้าน 34.97/98 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.38 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 102.01 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1238 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1241 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,463.39 จุด เพิ่มขึ้น 5.20 จุด, +0.36% มูลค่าการซื้อขาย 43,746.02 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,422.82 ลบ.(SET+MAI)
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับเพิ่มคาด
การณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ปี 59 มาอยู่ที่ 3.2% จาก 3.1% เป็นผลมาจากการบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส
2/59 ปรับตัวดีขึ้น ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งคลี่คลายลง
  • นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย 6 รองนายกรัฐมนตรี แถลงผลงานการ
บริหารราชการแผ่นดินในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยืนยันว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นปฏิรูปการทำงานทุกด้านอย่างครบวงจรเพื่อรองรับการเปลี่ยน
แปลงของสถานการณ์โลก ลดเหลื่อมล้ำของประชาชนที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งภายในประเทศ การพัฒนาประเทศเพื่อเพิ่มขีดความ
สามารถในการแข่งขัน การบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค การน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางปฏิบัติ
  • พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาปกรณ์ รองนายกรัฐมนตรี คาดปี 59 จะมีนักท่องเที่ยวจำนวน 33 ล้านคน เพิ่มขึ้น 10.28%
จากปี 58 และสร้างรายได้ 2.4 ล้านล้านบาท
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว สิ่ง
สำคัญคือต้องทำให้เกิดความยั่งยืน แม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่นัก เนื่องจากภาวะการส่งออกชะลอตัว และเอกชนมีความไม่มั่นใจต่อ
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แสดงความเห็นถึงผลงานของรัฐบาลว่า ให้คะแนนรัฐบาล 8 เต็ม 10 เนื่องจากสิ่งที่โดด
เด่นของรัฐบาลคือ การพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาโดยตลอด ทั้งๆที่เผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า และการฟื้นตัวของ
เศรษฐกิจมหภาคของไทยได้ในระดับเกิน 3% ถือว่าเหนือความคาดหมายของนักวิชาการ แต่ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังไม่กระจายตัวไปยัง
ต่างจังหวัด
  • นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ มอบนโยบายการดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจการค้าในภูมิภาค และ
ติดตามผลการดำเนินงานในภูมิภาคของสำนักงานพาณิชย์จังหวัด โดยได้ให้แนวทางการสร้างแผนเศรษฐกิจจังหวัด 4.0 ภายใต้
นโยบาย Thailand 4.0 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy Development) ซึ่งเป็นนโยบาย
สำคัญของรัฐบาลที่เน้นการสร้างความเข้มแข็งจากภายใน โดยเปลี่ยนเศรษฐกิจภูมิภาคให้เป็นระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจสถานภาพหนี้ภาคครัวเรือนปี 59 ซึ่งสำรวจระหว่างวันที่ 1-12 ก.
ย.59 พบว่า หนี้ครัวเรือนสูงสุดในรอบ 9 ปีที่มีการสำรวจ โดยอยู่ในระดับเฉลี่ย 298,005.81 บาทต่อครัวเรือน ขยายตัว 20.2%
เป็นหนี้ในระบบ 62.3% หนี้นอกระบบ 37.7% โดยมีวัตถุประสงค์ในการกู้ อันดับ 1 คือ ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อันดับ 2 เพื่อลงทุน
ประกอบธุรกิจ และอันดับ 3 ใช้ซื้อยานพาหนะ
  • ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือน ก.ย.59 ปรับตัวลดลงเดือนที่สองติดต่อกัน สะท้อนราคาทองมีโอกาสปรับตัวลด
ลง โดยมีปัจจัยกดดันจากนโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และทิศทางค่าเงินบาทที่มีโอกาสแข็งค่าจากเงินทุนไหลเข้า
มาเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง
  • คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน (NDRC) ได้อนุมัติการลงทุนสินทรัพย์ถาวรล็อตใหม่ในโครงการ
สาธารณูปโภคขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายทีผลักดันให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษ (ONS) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. ปรับตัวลง 0.2% เมื่อเทียบราย
เดือน และเพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบรายปี ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ สะท้อนให้เห็นว่า การ
ลงประชามติถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) นั้น กระทบต่อความต้องการจับจ่ายของผู้บริโภคอังกฤษในวงจำกัด
  • นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI)

เดือนส.ค.,ดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 2/2559, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.

ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ