TMB มองเศรษฐกิจปี 60 โตต่อเนื่อง 3.5% พร้อมปรับคาดการณ์ปีนี้เป็นโต 3.3% จาก 2.8% หลังส่งออกเริ่มฟื้น

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 3, 2016 11:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโส ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) เปิดเผยมุมมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 60 เติบโตได้ต่อเนื่องราว 3.5% จาก 3.3% ในปีนี้ โดยเครื่องยนต์ทุกด้านมีแรงขับเคลื่อนมากขึ้น และมองว่ามีหลายอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันมีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะต่อยอดการพัฒนาให้ก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้ไม่ยาก แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความไม่แน่นอนของทิศทางการเมืองของประเทศเศรษฐกิจหลัก ที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนในภูมิภาค ขณะที่ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์จะมีทิศทางดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังคุณภาพสินเชื่อในอุตสาหกรรมการผลิตและสินเชื่อที่อยู่อาศัย

ศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีหน้ายังคงขยายตัวต่อเนื่อง หนุนด้วยเศรษฐกิจจีนที่แม้จะเติบโตช้ากว่าในอดีตจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่มีการเติบโตดี ฝั่งสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แต่ยังคงมีประเด็นการเลือกตั้งที่อาจสร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง ด้านยูโรโซนยังคงถูกรุมเร้าจากความไม่แน่นอนเรื่อง Brexit ควบคู่กับปัญหาการเมืองที่อาจเกิดจากการเลือกตั้งในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี ทำให้ภาพการฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ยังคงเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อหดตัวสะท้อนนโยบายอาเบะโนมิกส์ยังไม่ประสบความสำเร็จจำเป็นที่จะใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 60

สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยการบริโภคภาคเอกชนได้แรงหนุนเพิ่มจากรายได้ภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้น การลงทุนภาครัฐ ขยายตัวต่อเนื่องจากมาตรการเร่งเบิกจ่ายโครงการลงทุนขนาดเล็ก ที่มีมูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 59 เช่นเดียวกับภาคส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวเป็นบวกอ่อนๆในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ทั้งปี 59 มูลค่าส่งออกหดตัวเพียง 1.8% ขณะที่ ภาคท่องเที่ยวยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ทำให้ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 59 ขยายตัวที่ 3.3% จากเดิมคาดที่ 2.8%

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 60 มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.5% โดยทุกองค์ประกอบมีแรงขับเคลื่อนมากขึ้น การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยบวกจากการบริโภคสินค้าคงทนเริ่มกลับมาและรายได้เกษตรกรมีแนวโน้มดีขึ้นจากปัจจัยด้านผลผลิตเป็นหลัก ในส่วนของการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็น เครี่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในส่วนรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนราว 2 แสนล้านบาทในปีนี้

รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังเหลือการเบิกจ่ายในส่วนที่เป็นวงเงินสินเชื่อราว 1.7 แสนล้านบาท อาทิ โครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SMEs โครงการบ้านประชารัฐ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย สำหรับการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับดีขึ้นเช่นกัน แม้จะยังเป็นระดับที่ต่ำก็ตาม โดยเป็นผลบวกเชื่อมโยงจากการลงทุนภาครัฐ

และภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มพลิกกลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ 2.3% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า นำโดยตลาดอาเซียน โดยเฉพาะ CLMV ที่คาดว่ามีแนวโน้มสดใสอย่างชัดเจน จากกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ ตลาดหลักอย่าง จีน ยุโรป ญี่ปุ่น ยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างการผลิตของจีน ที่จะส่งผลลบต่อสินค้าไทยไปจีนไม่น้อยกว่า 66%

ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะลดความร้อนแรงลงจากปีที่ผ่านๆมา แต่ตลาดอื่นๆ ทั้งยุโรป อาเซียนขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดจะอยู่ที่ 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 6%

ด้านตลาดการเงิน ศูนย์วิเคราะห์ฯ คาดว่าอัตราดอกเบี้นโยบายของไทยมีแนวโน้มทรงตัวที่ 1.5% ณ สิ้นปี 59 ไปจนถึงกลางปี 60 และมีแนวโน้มปรับขึ้นเป็น 1.75% ในช่วงครึ่งปีหลัง ตามอัตราเงินเฟ้อที่ทยอยปรับสูงขึ้นและการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ต่อเนื่องในปี 2560 ซึ่งทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเล็กน้อยจากปัจจุบันถึงปลายปี แต่จะแข็งค่ากลับในปี 60 โดย ณ สิ้นปี 60 คาดว่าจะแตะระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ จากเงินทุนไหลเข้าในภูมิภาคและเป็นไปตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นจากการมีเลือกตั้งในช่วงปลายปี

จากทิศทางการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้ภาพรวมของภาคธนาคารพาณิชย์ปี 2560 มีแนวโน้มสดใสมากขึ้น โดยสินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวที่ 6.3% เร่งตัวขึ้นจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคและสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคก่อสร้าง และการค้า ตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชน สำหรับด้านเงินฝาก มีแนวโน้มเติบโตที่ 4.3% ตามการขยายตัวของสินเชื่อ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องสร้างฐานเงินฝากเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ด้านคุณภาพสินเชื่อ เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (%NPL ratio) คาดว่าจะปรับสูงขึ้นจาก 2.76% ณ สิ้นปี 59 มาแตะจุดสูงสุดที่ 2.96% ในไตรมาสที่สองของปี 60 ซึ่งเป็นไปตามวัฏจักร NPL ที่จะทยอยปรับสูงขึ้นหลังเศรษฐกิจชะลอตัว โดยสินเชื่อที่มีคุณภาพด้อยลงส่วนใหญ่เป็นภาคอุตสาหกรรมการผลิต และสินเชื่อที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี คุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง 60 สอดคล้องกับภาพการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง 59

นอกจากนี้ ศูนย์วิเคราะห์ฯ มองธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดีในปีหน้า ประกอบด้วย ธุรกิจการแพทย์ การขนส่งและโลจิสติกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูป ซึ่งจัดเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการยกระดับการพัฒนาให้สูงขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งคือสามารถก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้ก่อนกลุ่มอื่นๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์เกษตรและเกษตรแปรรูป อาหารและเครื่องดื่ม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันกระบวนการผลิตยังต้องได้รับการพัฒนาเพื่อเข้าสู่เทคโนโลยีขั้นสูงก่อน ผู้ประกอบการจึงต้องเร่งปรับตัวให้เข้าเทรนด์โลก โดยมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุนผ่านการให้สิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ และการส่งเสริม R&D ◼


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ