นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตนเองได้นำคณะผู้ประกอบการมันสำปะหลังไทยจาก 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย เดินทางไปเจรจาขยายตลาดสินค้ามันสำปะหลังในประเทศอินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ทำให้ทราบว่าประเทศดังกล่าวมีความต้องการนำเข้าแป้งมันสำปะหลัง มันเส้น มันอัดเม็ด และกากมันอัดเม็ดจากไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสินค้ามันสำปะหลังจากไทยมีคุณภาพมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อีกทั้งผู้ประกอบการไทยก็มีความเชี่ยวชาญในเรื่องกระบวนการผลิตและความพร้อมที่จะส่งมอบสินค้า
"การเดินทางไปขยายตลาดดังกล่าวเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสพบปะหารือทางการค้าโดยตรงกับผู้ประกอบการอินเดีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่สนใจนำเข้าสินค้ามันสำปะหลังจากไทย ทำให้ผู้ประกอบไทยเข้าใจและเห็นภาพตลาดชัดเจนมากขึ้น" นายวินิจฉัย กล่าว
กรณีของอินเดียซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกและมีความต้องการใช้แป้งมันสำปะหลังในอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวนมาก ได้ปรับลดอัตราภาษีนำเข้าแป้งมันสำปะหลังแปรรูปอย่างมาก ภายใต้ FTA ASEAN-India จากเดิมในปี 2557 จัดเก็บในอัตรา 10% ปัจจุบันปรับลดลงเหลือ 6% และจะลดลงเหลือ 5% ในปี 2560
ขณะที่กรณีเกาหลีใต้ ผู้นำเข้าได้แสดงความสนใจที่จะทดลองนำเข้ามันเส้น/มันอัดเม็ด เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มเติมจากเดิมที่นำเข้าเฉพาะกากมันอัดเม็ด
ส่วนกรณีญี่ปุ่น ผู้ประกอบการญี่ปุ่นก็ยินดีที่จะช่วยผลักดันให้รัฐบาลยกเลิกโควตาภาษีนำเข้าแป้งแปรรูปจากไทยภายใต้ JTEPA ที่ปัจจุบันจัดเก็บภาษีในอัตรา 0% สำหรับการนำเข้าแป้งแปรรูปไม่เกิน 200,000 ตัน/ปี ขณะที่ในปี 2558 ญี่ปุ่นนำเข้าแป้งแปรรูปจากไทย 312,755 ตัน โดยส่วนที่เกิน 112,755 ตัน ผู้นำเข้าญี่ปุ่นจะถูกจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 6.8%
สำหรับในขั้นต่อไป กระทรวงพาณิชย์จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของประเทศเป้าหมาย เพื่อหาแนวทางในการลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าต่างๆ ตลอดจนให้ทูตพาณิชย์เชิญผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ และสนใจนำเข้าสินค้ามันสำปะหลังไทย เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจสินค้ามันสำปะหลัง ระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายน 2559 ทั้งนี้ เชื่อว่าการทุ่มเทอย่างหนักของกระทรวงพาณิชย์ในการขยายตลาดสินค้ามันสำปะหลังไทยจะสามารถยกระดับราคามันสำปะหลังในประเทศให้ดีขึ้น