(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.40 แข็งค่าต่อเนื่อง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.50

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 14, 2016 11:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาด 35.40 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 35.65 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทกลับมาแข็งค่าหลังจาก 2-3 วันที่ผ่านมาขึ้นไปมาก เหมือนกับ Buy on Rumer, Sell on Fact ลงไปต่ำ สุดที่ 35.09 บาท/ดอลลาร์ แต่ตอนนี้เด้งขึ้นมาอยู่แถวๆ 35.20 บาท/ดอลลาร์แล้ว คาดว่าวันนี้น่าจะเหวี่ยงเยอะ" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.00 - 35.50 บาท/ดอลลาร์

"บ้านเราคงวิ่งไม่สนใจใครจนกว่าทุกอย่างจะ Stable ตอนนี้คงเหวี่ยงด้วยปัจจัยภายในของตัวเองเป็นหลักไปก่อน"
นักบริหารเงิน กล่าว

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 35.2317 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (13 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.14261% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (13 ต.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.45096%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 103.90 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1050 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1025 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.7310 บาท/
ดอลลาร์
  • OANDA ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายปริวรรตเงินตรา ระบุว่า ถึงแม้ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทยจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน
ต่อไป แต่ความไม่แน่นอนส่วนใหญ่ได้ถูกซึมซับในราคาแล้ว จึงทำให้มีผลกระทบที่จำกัด
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.)
เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการค้าที่ซบเซาของจีน โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.58 เยน
จากระดับ 104.26 เยน ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1049 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1013
ดอลลาร์สหรัฐ
  • สำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.ร่วงลง 5.6% เทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่ม
ขึ้น 2.2% ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 1.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่ง
ออกในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวลง 1.6% และยอดนำเข้าลดลง 2.3%
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการ
ประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX
(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,257.6 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้าน
การพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ ซึ่งแม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น แต่
สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลง และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่ง
มอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น
22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 52.03 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวในสัปดาห์ที่แล้วที่
ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี โดยอยู่ที่ระดับ 246,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973

การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ระดับต่ำดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และ หนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

  • นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในการประชุมเศรษฐกิจครั้งที่ 60 ของเฟด
สาขาบอสตัน ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อจับความเคลื่อนไหวว่าประธานเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่
โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "The Elusive Recovery"
  • นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., สต็อก

สินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ