นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 35.30 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากตอน เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.40 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวัน High ตอนเช้าตอนเปิดตลาด แล้วก็ลงมาเร็วมาก ทำ Low ที่ 35.09 ก่อนจะปรับตัวขึ้นมาในช่วงท้าย ตลาดขึ้นไปแถวๆ 35.32/33/34/35 แต่ก็มีแรงเทขายออกมา" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทยังมีแนวโน้มเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.00-35.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.35 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 103.95 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1020 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1050 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,477.61 จุด เพิ่มขึ้น 64.79 จุด, +4.59% มูลค่าการซื้อขาย 105,761.63 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,581.55 ลบ.(SET+MAI)
- ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยืนยันว่า จะติดตามสถานการณ์ตลาดเงินของไทย ทั้งตลาดเงินตราต่าง
ประเทศและตลาดพันธบัตรอย่างใกล้ชิด เพราะต้องพิจารณาถึงความมั่นใจของตลาดให้เป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นปกติ ทั้งนี้ ธปท.
ได้ขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินต่างๆ ให้ช่วยกันดูแลเสถียรภาพของตลาด เรื่องความผันผวน รวมถึงให้คำแนะนำลูกค้าอย่าง
เหมาะสม
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) แจ้งเป้าหมายทางการเงินของธนาคารในปี 60 โดยตั้งเป้าสินเชื่อโต 4-6% อัตรา
ส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) ที่ 3.3-3.5% สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ 3.3-3.4% ขณะที่รายได้
ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะเติบโตมากกว่า 5%
- ธนาคารกสิกรไทย ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับงวด 9 เดือน ปี 59 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ
จำนวน 29,930 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 11.96% หรือจำนวน 4,067 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากธนาคารมีการ
ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความไม่แน่นอนในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว
- บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHBANK) แจงผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย งวด 9 เดือนของ
ปี 59 มีกำไรสุทธิจำนวน 2,072.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 880.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 74.0% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี
ก่อนที่มีจำนวน 1,191.2 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 13.6% ตามการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อโดย
เฉพาะสินเชื่อ Big Corporate และ Corporate ที่เพิ่มขึ้น 13.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และรายได้ค่าธรรมเนียมและ
บริการสุทธิเพิ่มขึ้น 56.6%
- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (MTI) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตร
มาสสามของปีนี้ ขยายตัว 0.6% เทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าจะขยายตัว 1.7% และยังชะลอตัว
ลงจากไตรมาสสองที่ขยายตัว 2%
- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า จีนได้รับเม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบ
เป็นรายปี แตะที่ 9.21 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย.