นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.45 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 35.30 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ย และทิศทางการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศ
"บาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า หลัง FED มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และการไหลออกของเงินทุนต่าง ประเทศ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.40-35.50 บาท/ดอลลาร์
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.01 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ระดับ 103.35 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0974 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.1020 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.2390 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (17-21 ต.ค.)ที่ 34.95-35.50 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดจะยังคงเป็นเรื่องสัญญาณที่อาจสะท้อนโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ทั้งจากเจ้าหน้า
ที่เฟด และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดขายบ้านมือสอง ข้อมูล
การเริ่มสร้างบ้าน การอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ย. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามประเด็นดี
เบตของคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ การประชุมธนาคารกลางยุโรป และข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3/2559 ของจีน
- นักวิเคราะห์ประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้ยังมีโอกาสขยับตัวในแดนบวก และผันผวนน้อยลง แต่ยังแนะนำให้จับตาจุด
อันตรายนักลงทุนจ้องขายตัดขาดทุน และติดตามปัจจัยภายในประเทศทั้งผลการประชุม FED และ ECB ที่จะกลับมากดดันตลาดหุ้นได้
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้เสนอการจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ให้กระทรวงการ
คลังพิจารณาแล้ว คาดว่าจะให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้เดือน พ.ย.นี้ และสามารถเริ่มประกาศใช้ได้ในปี 2561 เพื่อช่วย
ให้ลูกจ้างอายุ 15-60 ปี รวมกว่า 14.7 ล้านคน มีรายได้หลังเกษียณเพียงพอการดำรงชีพรองรับสังคมผู้สูงอายุ ส่งเสริมการออมใน
ประเทศเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6.8 หมื่นล้านบาท
- ธนาคารซิตี้แบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารได้เริ่มใช้เทคโนโลยีชีวภาพ (Biometric) ด้านเสียงพูด เพื่อยืนยันตัวตนใน
การให้บริการลูกค้าผ่านคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.นี้เป็นต้นไป หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พ.ย.นี้
- รัฐบาล-สนช.-สปท.-กรธ. น้อมรับพระราชบัณฑูรสมเด็จพระบรมฯ ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ พร้อมช่วยกันบรรเทาความ
วิปโยคจากการสวรรคตของพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ยืนยันโรดแมป-การเลือกตั้งอยู่ในกำหนดเดิม
- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวต่อที่ประชุมเฟดในเมืองบอสตันเมื่อคืนที่ผ่านมาว่า
มี “วิธีที่เป็นไปได้" ในการบริหารเศรษฐกิจที่กำลังร้อนแรงของสหรัฐที่สามารถช่วยฟื้นฟูความเสียหายจากภาวะถดถอยได้
- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลงในเดือนต.ค. แตะระดับ
87.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2015 ขณะที่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 92 และต่ำกว่าระดับ 89.8 ในเดือน
ก.ย.
- สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (14 ต.ค.) หลัง
จากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 104.07 เยน จากระดับ 103.58 เยน
ส่วนเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0998 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1049 ดอลลาร์สหรัฐ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (14 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงิน
เฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ
0.17% ปิดที่ 1,255.5 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (14 ต.ค.) เนื่องจากได้รับแรงกดดัน
จากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะที่เปิดดำเนินงาน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบ
เดือนพ.ย.ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 50.35 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 8 เซนต์
หรือ 0.2% ปิดที่ 51.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
- รัฐมนตรีกระทรวงคลังกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ได้เห็นพ้องเรื่องการใช้เครื่องมือ
ด้านนโยบายที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค และยังได้เตือนถึงเรื่องการดำเนินการในรูปแบบที่ต้องการปกป้อง หรือการ
ลดค่าเงินลงเพื่อความสามารถในการแข่งขัน
--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์:
[email protected]