ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.29 ระหว่างวันผันผวนก่อนกลับมาแข็งค่าจากช่วงเช้า มองกรอบพรุ่งนี้ 35.20-35.35

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 17, 2016 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.29 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 35.45 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาค ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหว ระหว่าง 35.29-35.50 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทค่อนข้าง swing ไปตามภูมิภาค ก่อนลงมาปิดตลาดแข็งค่าจากช่วงเช้า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.20-35.35 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางของเงินบาทคงต้องรอดูปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์คืนนี้ หากเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ก็จะส่งผลให้บาท กลับมาอ่อนค่าได้อีกช่วงเปิดตลาด" นักบริหารเงิน กล่าว

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.09 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.01 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0991 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0974 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,477.34 จุด ลดลง 0.27 จุด, -0.02% มูลค่าการซื้อขาย 59,965.59 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 5,577.03 ล้านบาท (SET+MAI)
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังประชุมติดตามงานกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ว่า ได้เน้น
ย้ำกรมการค้าภายในเกี่ยวกับการดูแลค่าครองชีพ และให้มีนโยบายเชิงรุกในการจัดการ ดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพ ขณะเดียว
กัน ยังให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศไปปรับโครงสร้างการจัดการตลาดการส่งออก โดยให้แบ่งตลาดการส่งออกเป็นภูมิภาค
เช่น ภูมิภาคอาเซียน ตะวันออกกลาง ตะวันออกไกล ยุโรป แอฟริกา เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกให้เป็นไปโดยเร็วและมีนโย
บายที่เจาะตลาดที่เหมาะสมมากขึ้น
  • ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ก.ย.)
มีกำไรสุทธิ 798.31 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 16.7% ขณะที่มีราย
ได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 4.5% มาที่ 9.69 พันล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 19.1% และราย
ได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 8.2% ส่วนรายได้อื่นลดลง 42.7%
  • ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/59 มีกำไรสุทธิ 1.69 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น
83.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นกำไรสุทธิของธุรกิจตลาดทุน ซึ่งดำเนินการโดยบมจ.ทุนภัทร และบริษัทย่อย ได้แก่ บล.
ภัทร และบลจ.ภัทร จำนวน 313 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการดำเนินงาน 5.06 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.6% จากช่วงเดียวกัน
ของปีก่อน โดยมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 19.5% และรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิที่เพิ่มขึ้น 7.7%
  • การประชุมระดับผู้นำในกลุ่ม BRICS ซึ่งจัดขึ้นที่อินเดีย ได้ปิดฉากลงแล้ว โดยผู้นำกลุ่ม BRICS ได้ออกแถลงการณ์
ร่วมกันซึ่งเน้นย้ำด้านการต่อต้านก่อการร้ายและการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
  • ข้อมูลจาก China Foreign Exchange Trading System (CFETS) ระบุว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 2.22% มา
อยู่ที่ 6.7379 หยวนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2553
  • คณะรัฐมนตรีจีนเปิดเผยว่า จีนจะใช้นโยบายเพิ่มเติมเพื่อส่งเสริมให้ภาคบริการกลายให้เป็นกลไกใหม่ในการผลักดัน
การเปลี่ยนผ่านทางเศรษฐกิจ

แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของคณะรัฐมนตรีซึ่งมีนายหลี่ เค่อเฉียง เป็นประธานการประชุมระบุว่า รัฐบาลจีนจะลด ข้อจำกัดลง และผ่อนคลายกฎระเบียบในการพัฒนาบริการการดูแลผู้สูงอายุ การศึกษา และกีฬา

  • นายอีริค โรเซนเกรน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวว่า เฟดอาจจะต้องเดินหน้าเชิงรุก
มากขึ้นในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และหากอัตราว่างงานร่วงลงมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่
เราจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น
  • ผลการสำรวจผู้บริหารในภาคธุรกิจซึ่งจัดทำโดยเอิร์นส์ แอนด์ ยัง ระบุว่า อังกฤษไม่ติด 1 ใน 5 อันดับประเทศน่า

ลงทุนที่สุดในโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เนื่องจากภาคธุรกิจวิตกกังวลว่า ผลกระทบของการที่อังกฤษถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิก

สหภาพยุโรป (Brexit) ที่อาจทำให้การค้าระหว่างประเทศซับซ้อนมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ