รมว.คลัง คาดใช้ T+2 ไม่ทันกลางปีหน้า แต่ยังมั่นใจพร้อมเพย์เปิดเต็มรูปแบบ Q1/60

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 27, 2016 17:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ในฐานะประธานประชุมคณะกรรมการติดตามความคืบหน้าการทำระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) เปิดเผยว่า สำหรับระบบ e-Payment ตลาดทุนที่ขอให้มีการชำระราคาเร็วขึ้นจากเดิมภายใน 3 วัน (T+3) เป็นภายใน 2 วัน (T+2) นั้น ก่อนหน้านี้หน่วยงานที่รับผิดชอบยืนยันว่าจะเริ่มใช้งานได้ในกลางปี 60 แต่เมื่อหารือในรายละเอียด พบว่ายังมีปัญหาบางส่วน ทำให้อาจต้องเลื่อนออกไปเป็นไตรมาส 3/60 เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และธนาคารพาณิชย์ยังสรุปเรื่องการชำระเงินร่วมกันไม่ได้

ส่วนโครงการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (พร้อมเพย์) ได้มีการเลื่อนจากเดิมที่จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายในสิ้นปีนี้ ไปเป็นไตรมาสแรกของปี 2560 เนื่องจากการทดลองระบบของธนาคารพาณิชย์กับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แล้วพบว่าระบบยังมีปัญหามีการทำธุรกรรมบางรายการไม่ถูกต้อง จึงต้องทำการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าระบบพร้อมเพย์ไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้

"ที่ผ่านตอนเริ่มทำโครงการ e-Payment ในส่วนของการทำพร้อมเพย์มีคนบอกว่าต้องใช้เวลา 3-4 ปี แต่รัฐบาลบอกว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี หรือ 1 ปีครึ่ง ซึ่งตอนนี้หากมีความล่าช้าออกไปบ้างเพื่อความปลอดภัยให้ผู้ใช้มีความมั่นใจ ก็เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ โดยส่วนตัวผมมองว่าเป็นเรื่องปกติถ้าเหตุผลของการเลื่อนเพื่อให้เกิดความมั่นใจก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะเมื่อเราทำลงไปแล้วก็ไม่อยากมาแก้ปัญหาภายหลัง ดังนั้นการทำทุกขั้นตอนจึงต้องถูกต้อง ไม่ใช่ทำมั่ว ๆ" นายอภิศักดิ์ กล่าว

สำหรับโครงการชิงโชคเงินรางวัลเพื่อจูงใจให้คนมาใช้ e-Payment จากเดิมที่จะเริ่มต้นในเดือน ม.ค. 60 ก็จะเลื่อนออกไปเป็นเดือน เม.ย.60 เนื่องจากระบบพร้อมเพย์และการติดตั้งเครื่องชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) มีปัญหาต้องเลื่อนออกไป โดยการจ่ายเงินรางวัลจะให้กับผู้ใช้บัตรเดบิต และร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องชำระเงินใหม่ก็จะชิงโชคเงินรางวัลได้ด้วย

ด้านการติดตั้งเครื่อง EDC นั้น ทางกระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ผู้ที่ลงทุนซื้อเครื่องมาติดตั้งสามารถนำค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีได้สองเท่า ส่วนร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องสามารถนำค่าธรรมเนียมจากการติดตั้งเครื่องมาหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม e-Payment ภาครัฐที่จะจ่ายเงินให้กับประชาชนยังอยู่ตามแผนเดิมคือดำเนินการภายในเดือน ธ.ค. 59 และภายในปีหน้าจะทำ e-Payment ทั้งรับและจ่ายเงินทั้งระบบทั้งหมด ส่วนเรื่องตั๋วร่วมในโครงการ e-Payment สำหรับช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยนั้น สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งจราจร (สนข.) ได้รับไปดูแลและยืนยันว่าภายในช่วงกลางปีหน้าจะแล้วเสร็จแน่นอน

นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องทำการตั๋วร่วมรถเมล์และรถไฟให้กับผู้มีรายได้น้อย เพื่อลดค่าใช้จ่าย ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะได้เห็นในกลางปีหน้า ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นอีกหนึ่งนโนบายที่ประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ