ภาวะตลาดเงินบาท: บาทปิด 35.01/05 ทรงตัวรอผลประชุม FOMC คาดกรอบพรุ่งนี้ 34.90-35.10

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 1, 2016 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.01/05 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.01 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยตลาดยังรอติดตามผลการประชุมคณะกรรมการ กำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คืนวันพรุ่งนี้ รวมทั้งยังติดตามการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในสัปดาห์ หน้า ซึ่งขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงแล้ว

"บาทวันนี้แกว่งแคบมากๆ ไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ๆ เลย ตลาดรอผลประชุม FOMC และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 8 พ.ย." นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทยังมีโอกาสแข็งค่า มองการเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.10 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.95 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.75 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.0993 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0971 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,504.52 จุด เพิ่มขึ้น 8.80 จุด (+0.59%) มูลค่าการซื้อขาย 54,664 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,489.90 ลบ.(SET+MAI)¶
  • กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) หรืออัตราเงินเฟ้อในเดือน ต.ค.59 ขยายตัว 0.34% เมื่อ
เทียบกับ ต.ค.58 ส่งผลให้เงินเฟ้อเฉลี่ย 10 เดือนแรกของปี 59 (ม.ค.-ต.ค.59) ขยายตัว 0.06% โดยการขยายตัวของอัตรา
เงินเฟ้อในเดือน ต.ค.ถือว่าเป็นเงินเฟ้ออย่างอ่อน และช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในภาพรวม ระดับราคาสินค้ายังมี
เสถียรภาพดี จากการดำเนินนโยบายประชารัฐที่ช่วยสนับสนุนกำลังซื้อฐานราก ทำให้ครัวเรือนมีรายได้และมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ทั้งนี้
กระทรวงพาณิชย์ยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อปี 59 ที่ระดับ 0-1%
  • สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) คาดว่าการส่งออกของไทยในปี 59 จะหดตัว -0.8% ถึง 0%
ส่วนสถานการณ์ในปี 60 คาดว่าการส่งออกจะมีอัตราการเติบโตอยู่ระหว่าง 0 ถึง 1% เนื่องจากภาวะการส่งออกของประเทศไทยใน
ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาขยายตัวดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน ต.ค.59 ปรับลดลงจากเดือนก่อน
จากระดับ 50.3 มาอยู่ที่ระดับ 49.2 ตามความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการในภาคบริการที่เห็นว่าองค์ประกอบด้านคำสั่งซื้อ การผลิต
และผลประกอบการปรับลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มที่พักแรมและร้านอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบ
จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงมากจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ

ประกอบกับผู้ประกอบการในกลุ่มการค้าปลีกชิ้นส่วนและอะไหล่ยนต์ และกลุ่มการผลิตยานยนต์ที่ความเชื่อมั่นปรับลดลงจาก ความต้องการซื้อยานยนต์ในประเทศที่ชะลอตัว เนื่องจากเป็นช่วงรอโปรโมชั่นใหม่ในงานมอเตอร์โชว์ที่จะจัดขึ้นปลายปีนี้

  • ผลรายงานการวิจัยด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ระบุว่า สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นกำลัง
ปรับตัวดีขึ้นอย่างช้าๆ โดยยังพบจุดอ่อนบางประการในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ โดยผลผลิตจากอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคอื่นๆ ที่
เกี่ยวข้องกับยานยนต์ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการฟื้นตัวของพื้นที่ในจังหวัดคุมาโมโตะและบริเวณใกล้เคียงหลังเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหว
ในขณะที่การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวขึ้นในลักษณะที่ค่อนข้างชะลอตัว เนื่องจากภาคธุรกิจเครื่องนุ่งห่มอยู่ในช่วงขาลง รวมถึงการ
บริโภคของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าหรูหราและสินค้าบริโภคทั่วไป
  • ญี่ปุ่น ส่งสารเตือนนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษว่า รัฐบาลอังกฤษต้องสื่อสารให้ชัดเจนมากขึ้น ในประเด็น
ที่อังกฤษตัดสินใจแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) มิฉะนั้นจะทำให้การลงทุนในประเทศอังกฤษตกอยู่ในความเสี่ยง ทั้งนี้เพราะ
บริษัทสัญชาติญี่ปุ่นได้เข้าไปตั้งกิจการในอังกฤษกว่า 1,000 แห่ง และมีการสร้างงานกว่า 140,000 ตำแหน่ง
  • สหภาพยุโรป (EU) เตรียมปฏิรูปการจัดเก็บภาษีบริษัทที่ทำธุรกิจในยุโรป เพื่อป้องกันการหาผลประโยชน์จากช่องว่าง

ของความแตกต่างระหว่างข้อบังคับด้านการจัดเก็บภาษีในกลุ่มประเทศสมาชิก ทั้งนี้ EU ได้เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีในรูปแบบเดียวกัน

ทั่วทั้งยุโรป ภายใต้กฎ CCCTB ที่กำหนดให้บริษัทต้องจ่ายภาษีโดยยึดตามสถานที่ตั้งของสินทรัพย์ถาวรและสถานที่ทำงานของลูกจ้าง

รวมถึงสถานที่ที่มีการจำหน่ายสินค้าเป็นหลัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ