พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทน รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการเตรียมการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนารายยุทธศาสตร์ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) และจะใช้เป็นแผนอ้างอิงสำหรับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐในการจัดทำแผนปฏิบัติการดิจิทัลของหน่วยงานและจัดทำคำของบประมาณประจำปีต่อไป
สำหรับร่างแผนปฏิบัติการนี้ มีวัตถุประสงค์สำคัญ 3 ประการ คือ ประการแรก เพื่อกำหนดกิจกรรมที่สำคัญที่ต้องมีการดำเนินงานในระยะสั้น (ภายใน 1 ปี 6 เดือน) และระยะกลาง (ภายใน 5 ปี) และแนวทางการจัดสรรทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้บรรลุซึ่งเป้าหมายของแต่ละยุทธศาสตร์ และเป้าหมายของการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
ประการที่สอง เพื่อให้การขับเคลื่อนการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นเอกภาพ โดยให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานภาครัฐและสร้างกลไกเพื่อให้เกิดการทำงานอย่างมีบูรณาการระหว่างหน่วยงาน
ประการที่สาม เพื่อให้มีเป้าหมายและตัวชี้วัดการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่สามารถนำมาใช้ในการติดตามการประเมินผลอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องรายปี ซึ่งแผนปฏิบัติการเป็นแผนระดับชาติที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมดำเนินการให้สำเร็จลุล่วงอย่างเป็นรูปในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของตน โดยในการขับเคลื่อนกจิกรรมตามยุทธศาสตร์ให้บรรลุผลในระยะเวลา 5 ปี จะต้องมีกลไกนโยบาย ติดตาม ประเมินผลที่ทำงานร่วมกันกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ทั้งนี้ เป้าหมายและตัวชี้วัดของแผนปฏิบัติการ กำหนดไว้ 4 ประการ คือ 1.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ก้าวทันเวทีโลก โดยให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาสูงสุด 25 อันดับแรก มีการพัฒนาด้าน Technological Infrastructure ให้ดีขึ้นเป็น 35 อันดับแรก และสัดส่วนมูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลต่อ GDO เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 18.2%
2. สร้างโอกาสและความเท่าเทียมทางสังคม โดยตั้งเป้าว่าหมู่บ้านในประเทศไทยเข้าถึงการบริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไม่น้อยกว่า 93%
3. มีการพัฒนาทุนมนุษย์สู่ยุคดิจิทัล โดยประชาชนทุกคน 50% มีความตระหนัก ความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์ สัดส่วนการจ้างงานบุคลากรด้านดิจิทัลต่อการจ้างงานทั้งหมดเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 3%
4. มีการปฏิรูปภาครัฐ โดยตั้งเป้าไว้ว่ามีการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐดีขึ้น 10 อันดับ และคะแนนการให้บริการออนไลน์ จากการจัดอันดับของ UN e-Government ranking ดีขึ้นไม่น้อยกว่า 25% ซึ่งจากเป้าหมายดังกล่าว จะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวสู่การเป็นดิจิทิลไทยแลนด์ 4.0 ได้อย่างเต็มรูปแบบ