นักบริหารเงินธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.34 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.11 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าหลังตลาดมีความเชื่อมั่นว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ คน ใหม่จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
"เงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าหลังมีความเชื่อมั่นว่าทรัปม์จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขนานใหญ่ ทำให้นักลงทุน หันมาถือครองดอลลาร์และลงทุนในพันธบัตรสหรัฐฯ กันมากขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ไว้ระหว่าง 35.25-35.40 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.71 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 106.25 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0883 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0891 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.0720 บาท/
ดอลลาร์
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งทูตไทยปรับรับสถานการณ์เปลี่ยน หลัง "ทรัมป์" ขึ้นเป็นประธานาธิบดี
สหรัฐ ด้านพาณิชย์คาดไม่กระทบการค้าระยะสั้น ยันเป้าส่งออกไปสหรัฐปีหน้าโต 3% ขณะคนแวดวงตลาดทุนชี้ผันผวนระยะสั้น รอฟัง
นโยบายสหรัฐ 20 ม.ค.ปีหน้า
- สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจาก
102.84 เป็น 104.55 สะท้อนความเชื่อมั่นอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว โดยหมวดธุรกิจที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดคือ กลุ่มรับเหมาก่อ
สร้าง ส่วนกลุ่มธุรกิจที่ไม่น่าสนใจคือ กลุ่มมีเดีย ส่วนปัจจัยหนุนที่คาดว่าจะมีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายภาครัฐขณะที่
ปัจจัยฉุดที่มีอิทธิพลต่อตลาดหุ้นไทยมากที่สุด คือ นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)
- นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก
เพียงหนึ่งครั้งในระยะใกล้ ท่ามกลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับต่ำ และอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำ หลังจากนั้น เฟดสามารถ
คงอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนกว่าการขยายตัว, เงินเฟ้อ, ประสิทธิภาพการผลิต และปัจจัยอื่นๆทางเศรษฐกิจ จะปรับตัวไปสู่ช่วงใหม่
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 พ.ย.)
เนื่องจากชัยชนะของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐได้กระตุ้นให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 106.82 เยน จากระดับ 105.69 เยน ส่วน
เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0890 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0927 ดอลลาร์สหรัฐ
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดอลลาร์จะดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.00 เทียบยูโรในที่สุด จากการคาดการณ์ที่ว่านายโดนัลด์
ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะใช้นโยบายอัตราภาษีต่ำ และการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า IMF พร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และ
เชื่อว่าสหรัฐจะยังคงยึดมั่นในพันธกรณีที่มีต่อ IMF และสถาบันระหว่างประเทศอื่นๆ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่
ปลอดภัย หลังจากชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ได้หนุนตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ
และยังส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นด้วย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง
7.10 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ระดับ 1,266.40 ดอลลาร์/ออนซ์
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 11,000 รายใน
สัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 254,000 ราย
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ 1.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการ
ตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่ผันผวนภายในประเทศ