ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 35.58/61 อ่อนค่าจากแรงเทขายทำกำไร ตลาดรอผลประชุม FOMC คืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 14, 2016 17:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.58/61 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 35.56 บาท/ดอลลาร์

โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 35.55-35.60 บาท/ดอลลาร์ ตลาดรอผลประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) คืนนี้

"เงินบาทแกว่งตัวแคบๆ ในกรอบจากแรงเทขายทำกำไร" นักบริหารเงินฯ กล่าว

นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 35.55-35.75 บาท/ดอลลาร์

"ตลาดมองว่าพรุ่งนี้เงินบาทมีทิศทางอ่อนค่า" นักบริหารเงิน กล่าว
  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 115.10/30 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ระดับ 115.30 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0622/0645 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่ระดับ 1.0630 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,521.25 ลดลง 8.96 จุด, -0.59% มูลค่าการซื้อขาย 49,271.74 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 199.21 ล้านบาท (SET+MAI)
  • กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นได้ปรับลดประมาณผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ต.ค.ลงสู่
ระดับทรงตัว จากประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่ามีการขยายตัว 0.1% เนื่องจากการผลิตเครื่องยนต์และชิ้นส่วนของเครื่องบินที่ปรับตัว
ลง ส่วนดัชนีผลผลิตภาคโรงงานและเหมืองแร่ที่มีการปรับค่าตามฤดูกาลแล้วนั้นอยู่ที่ 98.4 เทียบกับฐานปี 2553 โดยลดลงจากการ
ประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 98.5

นอกจากนี้ยังได้ปรับลดประมาณการดัชนีการขนส่งภาคอุตสาหกรรม โดยระบุว่ามีการขยายตัว 2% ซึ่งลดลงจากการ ประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่ามีการขยายตัว 2.2% ส่วนดัชนีสต็อกสินค้าคงคลังภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 2.1% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลง จากการประมาณการครั้งก่อน

  • ธนาคารกลางจีน เผยยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวน ซึ่งอนุมัติโดยสถาบันการเงินภายในประเทศอยู่ที่ระดับ 7.946
แสนล้านหยวน (1.151 แสนล้านดอลลาร์) ในเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้นจากระดับของเดือน ต.ค.ซึ่งอยู่ที่ 6.513 แสนล้านหยวน ส่วน
ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทุกประเภทปรับตัวขึ้น 11.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่
ระดับ 153.04 ล้านล้านหยวน ณ สิ้นเดือน พ.ย. ขณะที่ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M1 ซึ่งครอบคลุมกระแสเงินสดหมุนเวียนและ
เงินฝากเผื่อเรียก (demand deposits) ปรับตัวขึ้น 22.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 47.54 ล้านล้านหยวน
  • นายสมศักดิ์ ปณีตัธยาศัย นายกสมาคมกุ้งไทย เผยในปี 59 มีผลผลิตกุ้งโดยรวมประมาณ 3 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปี
ก่อน 15% หลังจากการเลี้ยงเริ่มฟื้นตัวจากการแก้ไขปัญหาโรคตายด่วน (EMS) ได้สำเร็จ โดยการปรับปรุงฟาร์มและการจัดการการ
เลี้ยงที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่าในปี 60 จะเป็นปีที่ดีสำหรับเกษตรกร ทั้งราคาและผลผลิตที่น่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่การส่งออกกุ้งใน
เดือน ม.ค.-ต.ค.59 อยู่ที่ 160,935 ตัน คิดเป็นมูลค่า 54,483 ล้านบาท ปริมาณเพิ่มขึ้น 25.86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนมูลค่าเพิ่มขึ้น 23.11% ทั้งนี้คาดว่าทั้งปี 59 จะสามารถส่งออกกุ้งได้ 2 แสนตัน เพิ่มขึ้นจาก 25% ช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น
มูลค่าราว 6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% ขณะที่ในปี 60 คาดว่าจะสามารถส่งออกกุ้งได้ 2.3-2.5 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 10-15%
  • ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดผลิตภัณฑ์
มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์มีแนวโน้มขยายตัวเพียง 1.4% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว
1.8% เนื่องจากการส่งออกมีแนวโน้มหดตัวลง โดยสิงคโปร์เป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ส่วนการส่งออกนั้น นัก
วิเคราะห์คาดว่ายอดส่งออกที่ไม่นับรวมสินค้าจำพวกน้ำมัน จะหดตัวลง 4.4% ในปีนี้ นอกจากนี้ GDP ในปี 2560 มีแนวโน้มขยายตัว
1.5% ในปี 2560 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อ 3 เดือนที่แล้วว่าจะมีการขยายตัว 1.8%
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติฝรั่งเศส (Insee) เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของฝรั่งเศสเดือน พ.ย.ไม่เปลี่ยนแปลง
จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ข้อมูลเงินเฟ้อที่มีการเปิดเผยในวันนี้ไม่เปลี่ยนแปลง
จากข้อมูลเบื้องต้นที่มีการรายงานเมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย. ขณะที่ดัชนี CPI ของฝรั่งเศสมีการปรับค่าสำหรับเปรียบเทียบกับประเทศ
อื่นๆ ในยุโรป (HICP) ปรับตัวขึ้น 0.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.57
  • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าจะไม่ขยายเส้นตายในการดำเนินการเพิ่มทุนของ

ธนาคาร Monte dei Paschi di Siena (MPS) ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลี เนื่องจากมองว่าไม่มีประโยชน์

และถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลอิตาลีควรเข้ามาแทรกแซง ก่อนหน้านี้ธนาคาร Monte Paschi ต้องการขอเวลาอีกราว 5 สัปดาห์ จนถึง

กลางเดือน ม.ค.ปีหน้า โดยระบุว่าภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองกำลังส่งผลกระทบต่อแผนการเพิ่มทุนของทางธนาคาร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ