น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในเดือน พ.ย.มีการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ 5,799 ราย เพิ่มขึ้น 707 ราย หรือเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.59 ที่มีจำนวน 5,092 ราย และเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.58 ซึ่งมีจำนวน 4,520 ราย เพิ่มขึ้น 1,279 ราย หรือเพิ่มขึ้น 28%
สาเหตุที่เดือนพ.ย.59 มีการจดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น เพราะมีการจดทะเบียนธุรกิจร้านทองเพิ่มขึ้น หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เพราะจะได้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีมากกว่าผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดา โดยสถิติจดตั้งใหม่ 5 อันดับแรก พบว่า ธุรกิจขายปลีกเครื่องประดับ สูงสุดเป็นอันดับแรก 803 ราย รองลงมา คือ ก่อสร้างอาคารทั่วไป 649 ราย อสังหาริมทรัพย์ 351 ราย ภัตตาคารและร้านอาหาร 120 ราย ให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 115 ราย
"ที่ผ่านมา 11 เดือน ยอดจดตั้งบริษัทใหม่ทำได้สูงถึง 59,878 ราย เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มั่นใจว่ายอดจดตั้งใหม่ทั้งปีจะมีถึง 63,000-65,000 ราย สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 60,000 ราย เพราะแนวโน้มธุรกิจจดตั้งใหม่จะเพิ่มขึ้น จากการผลักดันให้ร้านค้าทอง ร้านขายยา จดทะเบียนนิติบุคคล รวมถึงยังมีธุรกิจที่ตั้งใหม่ เพื่อรองรับมาตรการกระตุ้นการลงทุนของรัฐด้านโครงการพื้นฐานคมนาคม การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว" น.ส.บรรจงจิตต์กล่าว
ขณะที่สถิติการจดเลิกธุรกิจในเดือนพ.ย.59 มีจำนวน 2,397 ราย เพิ่มขึ้น 809 ราย หรือเพิ่มขึ้น 51% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.59 ที่มีจำนวนเลิก 1,588 ราย และเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย.58 ที่มีจำนวน 2,722 ราย ลดลง 325 ราย หรือลดลง 12% ส่วนสาเหตุที่จดเลิกนั้นส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ไม่มีการประกอบการ โดยมีธุรกิจที่จดเลิกมากที่สุด คือ ธุรกิจค้าสลาก
นอกจากนี้ ในปัจจุบันมีหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น 1,355,900 ราย มูลค่าจดทะเบียน 40.42 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินการอยู่ทั่วประเทศ 646,460 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 15.77 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 466,230 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,152 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 179,078 ราย