(เพิ่มเติม) ธปท.-กสทช.-สมาคมธนาคารฯ เร่งสร้างความเชื่อมั่นโมบายแบงค์กิ้ง-พร้อมเพย์ ยกระดับดูแลความปลอดภัยข้อมูล

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 20, 2016 17:53 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการกำกับดูแลบริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.59 ที่ผ่านมาทั้ง 2 องค์กรได้ประสานความร่วมมือในการยกระดับการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของบริการชำระเงินผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมธนาคารไทย เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการใช้บริการโมบายแบงค์กิ้ง รวมถึงบริการพร้อมเพย์ที่จะเปิดให้บริการในไตรมาส 1 ปี 2560

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีการประชุมร่วมกัน โดยมีข้อสรุปความคืบหน้าการดำเนินงานในเรื่องดังกล่าว ดังนี้

1. สำนักงาน กสทช.จะมีหนังสือกำชับให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดำเนินการโอนย้ายเลขหมายให้เป็นไปตามกฎหมาย และประกาศ กสทช.อย่างเคร่งครัด โดยในการขอออกซิมการ์ดใหม่ การขอเปลี่ยนแปลงเจ้าของซิมการ์ด การขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ นั้น ผู้ใช้บริการจะต้องนำบัตรประชาชนตัวจริงมาใช้ในการติดต่อ เพื่อขอเปลี่ยนแปลงหรือโอนย้ายเลขหมายเท่านั้น

สำหรับกรณีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนก็จะต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจด้วย โดยสำนักงาน กสทช.ได้มีการจัดทำมาตรฐานกระบวนการพิสูจน์ตัวตนเพื่อรองรับการตรวจสอบบัตรประชาชนดังกล่าวแล้ว เพื่อสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงิน และป้องกันการโอนย้ายเลขหมายที่ไม่ถูกต้อง

อนึ่ง ในกรณีที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ฝ่าฝนกฎหมายหรือประกาศ กสทช. โดยไม่ดำเนินการโอนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงเลขหมายให้ถูกต้อง นอกจากจะได้รับโทษตามประกาศ กสทช.แล้ว ยังต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการโอนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงเลขหมายที่ไม่ถูกต้องดังกล่าวด้วย

2. สำนักงาน กสทช. และธปท. ตกลงร่วมกันเพื่อดูแลให้เกิดความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการโมบายแบงค์กิ้ง และพร้อมเพย์ว่าจะได้รับการดูแลการใช้บริการทางการเงินผ่านอุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างรัดกุม โดยจะแจ้งให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลเฉพาะเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น (ไม่ปรากฎชื่อของผู้ใช้บริการในระบบดังกล่าว) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการแล้วให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ดูแลความปลอดภัย

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเปลี่ยนแปลงหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ มีกลไกการดูแลที่รัดกุมตามข้อ 1 และมีกลไกที่บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แจ้งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลไปยังสถาบันการเงินให้รับทราบและปรับปรุงข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะขอคำยินยอมจากเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ในการนำส่งการเปลี่ยนแปลงข้อมูลดังกล่าวให้สถาบันการเงิน และหากเจ้าของหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่มีความประสงคผูกหมายเลขโทรศัพท์ใหม่กับบริการพร้อมเพย์สามารถดำเนินการได้ที่สถาบันการเงิน

ทั้งนี้ กลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินและผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสที่ 1 ปี 2560

3. ธปท. และสำนักงาน กสทช. ตกลงร่วมกันว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการขอรับคืนเงินค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินกรณียกเลิกการใช้บริการ ซึ่งจากเดิมที่ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะต้องดำเนินการผ่านการโอนบัญชีธนาคาร คืนเป็นเช็ค หรือโอนไปยังหมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่อื่นนั้น ขณะนี้ก็จะสามารถขอรับเงินคืนผ่าน e-wallet หรือบริการพร้อมเพย์ได้

ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ธปท.ได้ให้ฝ่ายคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงินยกร่างมาตรฐานแบบฟอร์มการกรอกข้อมูลของสถาบันการเงินใหม่ให้รัดกุมมากขึ้น เพื่อเป็นการอุดช่องโหว่การเซ็นยินยอมของผู้ใช้บริการทางการเงินในการเปิดเผยข้อมูลเช่น ชื่อ นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หลังจากมีข้อร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการเสนอขายบริการทางการเงิน ประกันชีวิตทางโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งการเข้าถึงข้อมูลรายธุรกรรมมีกระบวนหลายขั้นตอน สถาบันการเงินก็มีระบบป้องกันหลายขั้นตอนและยังมีการตรวจสอบจาก ธปท.ในฐานผู้กำกับดูแล

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า กสทช. จะมีหนังสือด่วนที่สุดกำชับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ว่าการขอออกซิมการ์ดใหม่ การขอเปลี่ยนแปลงเจ้าของซิมการ์ด การขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ผู้ใช้บริการจะต้องนำบัตรประชาชนตัวจริงมาใช้ในการติดต่อเพื่อเปลี่ยนแปลงหรือโอนย้ายเลขหมายเท่านั้น สำหรับกรณีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนก็ต้องใช้บัตรประชาชนตัวจริงของผู้มอบและผู้รับมอบอำนาจด้วย ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานกระบวนการพิสูจน์ตัวตนและเพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจในการใช้บริการธุรกรรมทางการเงินและป้องกันการโอนเลขหมายที่ไม่ถูกต้อง

ขณะที่ซิมการ์ดระบบเติมเงินนั้น หลังจากที่ผ่านมามีปัญหาการยืนยันพิสูจน์ตัวตนเช่นเดียวกัน โดยจะจัดให้มีการลงทะเบียนใหม่สำหรับผู้ที่เปิดใช้บริการซิมการ์ดใหม่ต้องแสดงบัตรประจำตัวประชนตัวจริง และสแกนลายนิ้วมือเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหมือนที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะเริ่มในเดือนมีนาคม 2560

ส่วนผู้ใช้บริการซิมการ์ดเติมเงินในปัจจุบัน สามารถเข้ามาลงทะเบียนใหม่เพื่อลดความผิดพลาดได้ และประชาชนสามารถตรวจสอบบัญชีหมายเลขโทรศัพท์ของตนเองผ่านช่องทางที่ กสทช.กำลังดำเนินการ เช่น เว็ปไซต์ หากตรวจพบว่าไม่ใช้เบอร์โทรศัพท์ของตนเองสามารถแจ้งยกเลิกได้ทันที

ทั้งนี้หากผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ฝ่าฝืนจะได้รับโทษตามประกาศกสทช.ตั้งแต่ตักเตือน ปรับ พักใบอนุญาต และเพิกถอนใบอนุญาตทันที

นอกจากนี้ ธปท.และกสทช. ตกลงร่วมกันว่าผู้ใช้บริการทางการเงินผ่านระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่และพร้อมเพย์จะได้รับการดูแลการใช้บริการทางการเงินอย่างรัดกุม โดยจะแจ้งให้สถาบันการเงินส่งข้อมูลเฉพาะเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยไม่ปรากฏชื่อของผู้ใช้บริการในระบบ หากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า โดยที่ไม่ได้รับการยินยอมจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย กสทช. โดยถือเป็นความผิดส่วนบุคคลเท่านั้น

ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 90 ล้านเลขหมาย ใช้บริการโมบายแบงค์กิ้ง 19 ล้านบัญชี มียอดธุรกรรมโมบาย แบงค์กิ้งในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เพิ่มขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากมีความสะดวกและต้นทุนการดำเนินงานต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ