(เพิ่มเติม) กนง.คงคาดการณ์ GDP ปี 59-60 โต 3.2% ใกล้เคียงกัน ความเสี่ยงโน้มไปด้านต่ำ-ความไม่แน่นอนมากขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 21, 2016 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุ เศรษฐกิจไทยในปี 2559 และ 2560 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ โดยในปี 2559 และ 2560 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้เท่ากันที่ 3.2% โดยการบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกสินค้าที่ปรับดีกว่าคาดจากข้อมูลจริงในไตรมาส 3 ปี 2559 เป็นสำคัญ รวมทั้งมาตรการภาครัฐที่ออกมาเพิ่มเติม ช่วยชดเชยการลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกบริการที่ต่ำกว่าคาด

สำหรับประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มทยอยปรับสูงขึ้น โดยคาดว่าในปีนี้เงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.2% ส่วนในปีหน้าอยู่ที่ 1.5% และคาดว่าจะกลับสู่กรอบเป้าหมายในไตรมาสแรกของปี 2560 แต่ลดลงบ้างจากประมาณการครั้งก่อน

ความเสี่ยงต่อประมาณการเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อโน้มไปด้านต่ำ และมีความไม่แน่นอนมากขึ้น โดยปัจจัยเสี่ยงหลักยังคงมาจากเศรษฐกิจโลกที่อาจฟื้นตัวช้ากว่าคาด และมีความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่น้อยกว่าประมาณการ โดยคาดว่านักท่องเที่ยวในปีนี้จะอยู่ที่ 32.4 ล้านคน ลดลงจากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 33.6 ล้านคน รวมถึงการลงทุนเอกชนที่ยังทรงตัวในระดับต่ำ ที่ -0.6% จากคาดการณ์เดิม 1.1%

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ เลขานุการ กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทยได้รับอานิสงค์ชดเชยจากการส่งออกสินค้าที่มีสัญญาณดีขึ้นจากการย้ายฐานการผลิตสินค้าบางรายการมาประเทศไทย โดยการส่งออกในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ -0.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว -2.5% ส่วนปี 2560 คาดว่าจะขยายตัวได้ 0% จากเดิม -0.5% รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้นตามรายได้เกษตรกรและมาตรการกระตุ้นระยะสั้นของรัฐ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในปี 2560 จะขยายตัวได้ถึง 4% หรือไม่นั้น จะต้องดูว่ามีปัจจัยในการพิจารณาที่แตกต่างจาก ธปท.อย่างไร โดยความเห็นของ ธปท.หากจะให้เศรษฐกิจโตถึง 4% จะต้องพึ่งพาการลงทุนของภาคเอกชนที่ขยายตัวสูงกว่านี้ จะเห็นจากที่ผ่านมาเศรษฐกิจโต 5-6% ก็มาจากการลงทุนภาคเอกชนที่มีส่วนสำคัญ โดยประมาณการเศรษฐกิจที่ 3.2% นั้น เป็นการรวมโครงการลงทุนของรัฐไว้ทั้งหมดแล้ว ยังไม่รวมมาตรการพิเศษที่รัฐบาลอาจจะมีการทยอยออกมา

"คณะกรรมการเห็นว่า ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจไทยยังเผชิญกับความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง และความไม่แน่นอนของทศทางการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ และการเงินของประเทศอุตสาหกรรมหลัก ที่จะส่งผลให้ทุนเคลื่อนย้ายและอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนมากขึ้น ดังนั้นนโยบายการเงินควรอยู่ในระดับที่ผ่อนปรนต่อเนื่อง และพร้อมใช้เครื่องมือเชิงนโยบายที่มีอยู่อย่างเหมาะสมให้เอื้อต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ" นายจาตุรงค์ กล่าว

นายจาตุรงค์ กล่าวถึงทิศทางค่าเงินบาทว่าแม้จะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจได้ แต่ กนง.ให้ความเป็นห่วงทิศทางค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ยังแข็งค่ากว่าอยู่บ้าง แต่เป็นไปตามกลไกตลาด ซึ่งถ้าปล่อยให้ค่าเงินบาทเป็นไปในลักษณะเช่นนี้นานๆ จะไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเข้าไปติดตามดูว่าภาวะตลาดการเงินยังเป็นปกติหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบการเก็งกำไร หรือการบิดเบือนตลาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ