ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.02/03 แนวโน้มทรงตัว มองกรอบ 35.92-36.05 คาดวอลุ่มบางใกล้หยุดสิ้นปี

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 28, 2016 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.02/03 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.02 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยที่จะมีผลต่อค่าเงินมากนัก ประกอบกับเป็นช่วงใกล้สิ้นปี ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างจะเบาบางแล้ว

"วันนี้บาทคงทรงๆ ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไร ประกอบกับใกล้หยุดสิ้นปีแล้ววอลุ่มจะบางๆ" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.92-36.05 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 117.60/63 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 117.24 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0471/0476 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.0453 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 36.0090 บาท/ดอลลาร์
  • ม.หอการค้าไทย สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 59-3 ม.ค. 60
พบว่าจะมีเงินสะพัดรวมทั้งสิ้น 150,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.21%
  • รมว.คลัง ยันภาษีที่ดินไม่ล้มแม้ประกาศใช้ไม่ทันปี 2560 เพราะอยู่ระหว่างพิจารณาของกฤษฎีกา ก่อนส่งต่อให้สนช.
ลั่นเดินหน้าประกาศใช้ได้ภายในปี 2561
  • ผลการสำรวจของ คอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด (Conference Board) ระบุว่า ผู้บริโภคสหรัฐมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นสูง
เกินคาดในเดือนธ.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งแตะที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2544 หรือสูงสุดในรอบ 15 ปี
  • ผลการสำรวจของ S&P CoreLogic Case-Shiller พบราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนต.
ค.
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ เกือบทั้งหมด ในการซื้อ
ขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) ขณะที่ตลาดซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง หลังจากที่ชะลอการซื้อขายในช่วงวันหยุด
เทศกาลคริสต์มาส โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 117.46 เยน จากระดับ 117.25 เยน ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อ
เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0455 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0448 ดอลลาร์
  • ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด
(Conference Board) เปิดเผยผลสำรวจว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 113.7 จากระดับ
109.4 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีเดือนธ.ค.ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อภาวะ
เศรษฐกิจและการจ้างงาน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดปิดทำการ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ ระดับ 1,138.80 ดอลลาร์/ออนซ์

  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่ากลุ่มประเทศ
ผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก จะดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์
นี้

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็น ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2558 ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

  • ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending

home sales) เดือนพ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่าง

งานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย., ดุลการค้าเดือนพ.ย. และดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนธ.ค.จาก

เฟดชิคาโก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ