นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการปรับปรุงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของ รมว.คลัง เพื่อให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาได้ภายในปีงบประมาณ 2560
"กฎหมาย พ.ร.บ. ร่วมทุนฉบับดังกล่าวเพิ่งใช้เพียง 4 ปีเท่านั้น แต่ต้องยอมรับว่ายังมีปัญหาอยู่มาก เพราะกฎหมายกำหนดว่าทุกโครงการลงทุนต้องผ่าน พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ พ.ศ. 2556 ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงโครงการขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโครงการขนาดเล็กมากๆ เช่น การเช่าที่ราชพัสดุ จะทำให้การดำเนินการอาจใช้เวลามาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับปรุงกฎหมาย และอาจมีการกำหนดกรอบมูลค่าโครงการที่จะเข้าเกณฑ์ของกฎหมายให้มีความเหมาะสมด้วย" นายเอกนิติ กล่าว
พร้อมระบุว่า สคร.อยู่ระหว่างการทำแผนการบริหารหลักทรัพย์ ทั้งที่อยู่ในตลาดและนอกตลาดหลักทรัพย์ที่ดูแลอยู่ ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 1.5 ล้านล้านบาท โดยรายละเอียดในการบริหารแต่ละหลักทรัพย์นั้น จะแยกออกมาตามความเหมาะสม เช่น หลักทรัพย์ใดเหมาะสมที่จะถือต่อไป หรือควรจะขายออก เป็นต้น โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีหน้า
"ปัจจุบัน สคร. มีหลักทรัพย์ที่อยู่ในความดูแลค่อนข้างมาก ทั้งหลักทรัพย์ที่เกิดจากการยึดทรัพย์ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งมีมากกว่า 100 หลักทรัพย์ มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาท โดยในส่วนนี้เบื้องต้นอาจต้องมาพิจารณาว่าจะทยอยขายออกอย่างไร เพราะส่วนใหญ่เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ก็ไม่มีความจำเป็นต้องถือไว้" นายเอกนิติ กล่าว