ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า แผนการหารายได้สำหรับปี 2560 นี้ อคส.ได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) มาเป็นที่ปรึกษาในการจัดทำรูปแบบการพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าธนบุรี 1 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยจะมีการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งช็อปปิ้งแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ (เอเชียทีค 2) ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ อคส.เตรียมนำคลังสินค้าราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยามาปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัย และให้เช่าฝากเก็บสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์, ชิ้นส่วนยานยนต์ จากเดิมที่ให้เช่าเก็บยาซึ่งมีรายได้เพียงปีละ 40 ล้านบาทเท่านั้น
"เชื่อว่าจากทั้ง 2 โครงการนี้ น่าจะทำให้ อคส.มีรายได้เพิ่มขึ้นได้เป็น 10 เท่าตัว จากปัจจุบันที่มีรายได้เพียงปีละ 93-94 ล้านบาท แต่กลับมีรายจ่ายสูงถึง 300 ล้านบาท ขาดทุนประมาณ 200 ล้านบาท" ผู้อำนวยการ อคส.กล่าว
ขณะเดียวกัน อคส.จะนำคลังสินค้าอีก 6 แห่ง ที่อยู่ทั่วประเทศ เช่น จ.สระบุรี, นครราชสีมา, ขอนแก่น และนครสวรรค์ มาปรับปรุง โดยเบื้องต้นกำลังทำการศึกษาว่าจะดำเนินการอย่างใดบ้างเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น ให้เช่าทำตลาดนัด จากเดิมให้เช่าพื้นที่เก็บพืชผลทางการเกษตรและปุ๋ย บางแห่งได้ค่าเช่าปีละ 18,000-25,000 บาทเท่านั้น
สำหรับแผนด้านการขายสินค้านั้น ปัจจุบัน อคส.ขายข้าวสารบรรจุถุงอยู่ในตลาด ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ มีผู้ซื้อจากต่างประเทศ ติดต่อขอซื้อข้าวจาก อคส. เช่น ผู้นำเข้าจีนที่เสนอซื้อราว 1 ล้านตัน โดยขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาในรายละเอียด คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้