นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนการช่วยเหลือฟื้นฟูเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ ปี 2559/60 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยที่ประชุม ครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 60 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 3 โครงการ วงเงิน 1,537 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.มาตรการให้ความช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ที่ประสบอุทกภัยของกรมส่งเสริมสหกรณ์ 451 ล้านบาท
2.โครงการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยของกรมส่งเสริมการเกษตร แบ่งเป็น กิจกรรมฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรโดยการสนับสนุนสารชีวภัณฑ์ วงเงิน 31.50 ล้านบาท และกิจกรรมสนับสนุนการปลูกผักเพื่อการบริโภคและสร้างอาชีพเสริมรายได้ วงเงิน 159 ล้านบาท
3.การซ่อมแซมโครงการชลประทาน วงเงิน 900 ล้านบาท
"มาตรการดังกล่าวเป็นการเสริมสร้างฟื้นฟู โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟูสภาพพื้นที่และอาชีพให้เกษตรกรที่ประสบอุทกภัยให้กลับสู่ภาวะปกติ" นายณัฐพร กล่าว
ทั้งนี้ มีเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ แยกเป็น ด้านพืช มีเกษตรกรได้รับผลกระทบราว 4.8 แสนราย พื้นที่เกษตรกรรมเสียหาย 1.1 ล้านไร่ ด้านปศุสัตว์ มีเกษตรกรได้รับผลกระทบ 4,500 ราย สัตว์เลี้ยงตาย 2.2 แสนตัว และด้านประมง มีเกษตรได้รับผลกระทบ 2.2 หมื่นราย พื้นที่เสียหาย 2.9 หมื่นไร่
นายณัฐพร กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้วาง Road Map การช่วยเหลือฟื้นฟูเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ปี 2560 ใน 12 จังหวัด โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การดำรงชีวิตของเกษตรกรกลับสู่ภาวะปกติ หรือพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ระยะแรก (ม.ค.60) เป็นการหยุดยั้งความเสียหาย โดยจะมีบริการคลินิกให้เกษตรกร 5 แสนราย ทั้งคลินิกพืช, คลินิกสัตวแพทย์ และคลินิกประมง, การดูแลสุขภาพสัตว์ และป้องกันโรค, การบำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็นในพื้นที่เกษตรกรรม และการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรลุ่มต่ำ เช่น พื้นที่ปลูกส้มโอทับทิมสยาม เป็นต้น
ส่วนระยะต่อไป (หลังจาก ม.ค.60) เป็นการเสริมสร้างฟื้นฟู ทั้งในด้านพืช เช่น การปรับปรุงบำรุงดิน เตรียมพันธุ์พืชไว้สนับสนุนเกษตรกร การเฝ้าระวังและควบคุมโรคพืช ด้านปศุสัตว์ เช่น เตรียมพันธุ์สัตว์แจกจ่ายเพิ่มเติม ปรับปรุงสถานที่เลี้ยง เตรียมอาหารและเวชภัณฑ์ เฝ้าระวังและควบคุมโรคสัตว์ ด้านประมง เช่น เตรียมพันธุ์ปลา ปรับปรุงบ่อ/สถานที่เลี้ยง เฝ้าระวังและควบคุมโรคสัตว์น้ำ นอกจากนี้จะมีการจัดผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในการให้คำแนะนำทั้งด้านพืช ปศุสัตว์ และประมง รวมทั้งการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การซ่อมสร้างระบบชลประทาน 579 แห่ง การพัฒนา Flood Way และการปรับโครงสร้างการผลิตให้เหมาะสม เป็นต้น