ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.13 ตลาดจับตาแถลงการณ์หลังการประชุม FOMC คืนนี้อาจหนุนดอลล์ฟื้นตัว

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 1, 2017 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.13 บาท/ดอลลาร์ จากเปิด ตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 35.14 บาท/ดอลลาร์ คาดตลาดรอดูผลประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) คืนนี้

"บาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ 35.13-35.16 บาท/ดอลลาร์ โดยมีทิศทางแข็งค่า คาดตลาดรอดูผลประชุม FOMC คืน นี้" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 35.05-35.20 บาท/ดอลลาร์

"ต้องรอดูว่า FOMC ยังยืนยันเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหมือนเดิมหรือไม่ ถ้ายังยืนยันก็จะมีแรงซื้อดอลลาร์กลับเข้า มาจากก่อนหน้านี้ที่มีแต่แรงเทขายดอลลาร์ออกมา" นักบริหารเงิน กล่าว

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 113.37 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.91 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.0785 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0794 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,576.32 จุด ลดลง 0.99 จุด, -0.06% มูลค่าการซื้อขาย 60,515.01 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,142.50 ล้านบาท (SET+MAI)
  • รมว.คลัง ระบุในอีก 6 เดือนข้างหน้า หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของระบบธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มลดลง
อย่างต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ NPL สิ้นปีนี้ลดน้อยลงกว่าปัจจุบัน เนื่องจาก
รัฐบาลได้พยายามบริหารให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เต็มศักยภาพ 4-5% ต่อปี
  • กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน ม.ค.60 อยู่ที่ 110.75 ขยายตัว 1.55% เมื่อเทียบ
กับ ม.ค.59 และหากเทียบกับเดือน ธ.ค.59 ขยายตัว 0.16%

ขณะที่ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อในไตรมาส 1/60 จะอยู่ที่ระดับ 1.77% ซึ่งเป็นช่วงของเงินเฟ้อขาขึ้น โดยเป็นผลมา จากปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นหลัก แต่การเข้าสู่ช่วงเงินเฟ้อขาขึ้นไม่ใช่สิ่งที่น่า กังวล เพราะเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว อย่างไรก็ดี ยังคงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั้งปีนี้ไว้ที่ระดับ 1.5-2.0%

  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะ
ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2560 จะเพิ่มไปที่ 2.3% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
จากระดับต่ำมาก และยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 2.5% บวก/ลบ 1.5% และยังต้องคงอัตรา
ดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงต่อไป
  • กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารแห่งประเทศไทย
(ธปท.) ได้ร่วมลงนามในบันทึกความตกลงว่าด้วยการจำหน่ายตราสารหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยวิธี
การประมูลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Bidding) เป็นครั้งแรก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือน ม.ค.60 ปรับลดลงเล็กน้อยจากเดือน
ก่อนที่ระดับ 50.3 มาอยู่ที่ระดับ 50.1 ตามภาระด้านต้นทุนประกอบการที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มปิโตรเคมี ยาง และ
พลาสติก และกลุ่มการผลิตกระดาษและการพิมพ์ เนื่องจากแนวโน้มราคาน้ำมัน และราคาเยื่อกระดาษที่เพิ่มสูงขึ้น
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจของโดนัลด์ ทรัมป์
(Trumponomics) โดยเฉพาะนโยบายการตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสินค้าที่กำลังพุ่งเป้าไปยังจีนและเม็กซิโก ซึ่งถือเป็น 2 ประเทศที่
สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าสูงเป็นอันดับต้นๆ รวมกันถึงกว่า 55% ของยอดขาดดุลการค้ารวมของสหรัฐฯ ว่า แม้ไทยไม่ใช่ประเทศที่ตกเป็น
เป้าหมายที่สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการกีดกันทางการค้า แต่หากสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน/เม็กซิโกจริงอาจส่งผลกระทบต่อ
การส่งออกของไทยทั้งทางบวกและทางลบ
  • นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% และมาตรการผ่อนคลายเชิง
ปริมาณ (QE) ไว้ที่ 4.35 แสนล้านปอนด์ในการประชุมวันที่ 2 ก.พ.นี้
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยตลาดจะจับตา

แถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ