ส.ป.ก.เร่งตรวจสอบเอกสารเอกชนเช่าพื้นที่ตั้งกังหันลมผลิตไฟฟ้า 18 รายภายใน 7-15 วัน ก่อนเรียกหารือในก.พ.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 6, 2017 18:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และทีมกฎหมายของ ส.ป.ก. หลังพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ มีคำสั่งให้เพิกถอนสัญญากับทุกบริษัทที่ได้อนุญาตให้ทำกิจการกังหันลมผลิตไฟฟ้าว่า ขณะนี้ ส.ป.ก. จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเอกสารหลักฐานต่างๆ ซึ่งประกอบด้วย เอกสารอนุญาต เอกสารประกอบการขออนุญาต และตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือมติการพิจารณาขออนุญาตของ 18 บริษัท แล้วนำข้อเท็จจริงมาพิจารณาตามข้อกฎหมาย ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายใน 7 – 15 วัน

"ส.ป.ก. จึงต้องตรวจสอบเอกสารข้อเท็จจริงก่อน เพราะการอนุญาตให้ใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเป็นอำนาจของคณะกรรมการปฎิรูปที่ดินจังหวัด (คปจ.) ซึ่งจะต้องนำหลักเกณฑ์การขออนุญาตเพื่อขอใช้ในกิจการต่างๆ มาทบทวนเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรโดยตรง หลังจากที่ตรวจสอบเอกสารข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว จะเชิญผู้ประกอบกิจการกังหันลมผลิตไฟฟ้า ทั้ง 18 บริษัท เข้ามาหารือภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ใน 2 ประเด็นหลัก คือ วิธีการดำเนินการผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อขายให้กับ กฟผ. และผลประโยชน์ที่เกษตรกรจะได้รับโดยตรงมีอะไรบ้าง"

หลักเกณฑ์ในการตรวจสอบ คือ ถ้าเกณฑ์ในการพิจารณาอนุญาตเหมือนกันกับ บริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด ก็ต้องเพิกถอนทั้งหมด แต่ถ้าตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าแตกต่างกัน โดยถ้าข้อเท็จจริงนั้นต่างกันที่สาระสำคัญ ก็ต้องพิจารณาเป็นกรณีไป แต่ถ้าข้อเท็จจริงนั้นต่างกันที่สาระไม่สำคัญ จะมีแนวโน้มอาจถูกเพิกถอนเหมือนกรณีบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบกิจการผลิตกระแสไฟฟ้าฟ้าพลังงานลมทั้ง 18 บริษัท ดำเนินกิจการตามปกติจนกว่าผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วมีคำสั่งให้เพิกถอน ซึ่งฝ่ายบริหารจะกำหนดว่าให้หยุดประกอบการภายในกี่วัน

"พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้ทาง ส.ป.ก. ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด"เลขาฯ ส.ป.ก.กล่าว

สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการนั้น จะต้องรอผลการตรวจสอบเอกสารก่อน ซึ่งมีเนื้อที่รวมประมาณ 620 ไร่ ส่วนกรณีบริษัท เทพสถิต วินด์ฟาร์ม จำกัด จังหวัดชัยภูมิ ต้องเพิกถอนกิจการกังหันลมผลิตไฟฟ้า จำนวนเนื้อที่ 39 ไร่ อย่างแน่นอนตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด

ส่วนการศึกษาเรื่องผลกระทบ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับของการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานลมนั้น เป็นหน้าที่ของกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ส.ป.ก.จะพิจารณาหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินเท่านั้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ