พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังคณะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ด้านการลงทุน (Honorary Investment Advisor: HIA) จำนวน 34 คน เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีได้เชิญชวน HIA ให้เข้ามาร่วมลงทุนในกิจการที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือลงทุนต่อยอดในอุตสาหกรรมที่ได้ลงทุนอยู่แล้ว โดยการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ให้มากขึ้น รวมถึงการวิจัยและพัฒนา ในสาขาต่างๆ ซึ่งแต่ละบริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณคณะที่ปรึกษาฯ ที่เชื่อมั่นลงทุนในประเทศไทยมาโดยตลอด พร้อมย้ำว่ารัฐบาลเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ รวมทั้งได้ดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมด้านการลงทุน และดำเนินมาตรการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส มุ่งมั่นลดปัญหาอุปสรรค
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า การปฏิรูปเศรษฐกิจของไทยนี้ รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการลงทุนของภาคเอกชนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งภาคเอกชนมีส่วนสาคัญยิ่งในการขับเคลื่อนการปฏิรูปเศรษฐกิจของไทย โดยเชื่อว่า การลงทุนจากต่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทยและมุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจัง และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี มองว่า นักลงทุนต่างชาติจากทุกภูมิภาคเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้สามารถพัฒนามาได้จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในช่วง 50 ปีที่ผ่านมาที่อุตสาหกรรมไทยรุดหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีหวังให้นักลงทุนเข้ามามีส่วนร่วมพัฒนาไปพร้อมๆกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ
ด้านนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยความสร้างสรรค์ คณะที่ปรึกษาฯ ได้สะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อไทย โดยเฉพาะความเชื่อมั่นทางการการเมือง การเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก พร้อมกันนี้ได้กล่าวถึงอุปสรรคที่ต่อการลงทุน โดยเฉพาะด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า รัฐบาลมีแนวทางในการพัฒนาประเทศ ไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องพัฒนาทรัพยากรบุคคล เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และขณะนี้นโยบายของรัฐบาลตอบโจทย์ด้านการลงทุนทุกด้าน และหากลงทุนในไทยนอกจากจะสร้างผลประโยชน์ให้กับไทยแล้ว ยังถือว่าช่วยสร้างประโยชน์ให้กับภูมิภาค ซึ่งนายกรัฐมนตรีชื่นชมทุกคนที่มีความตั้งใจในการช่วยประเทศไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และโอกาสนี้ ทุกบริษัทก็ให้ความมั่นใจกับรัฐบาลว่าจะมีการขยายการลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งบางบริษัทเปรียบประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่สอง และเป็นฐานการลงทุนในภูมิภาคนี้