ภาวะตลาดเงินบาท: ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 34.67-34.78 ก่อนกลับมาปิดที่ 34.68 เท่าช่วงเช้า

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 21, 2017 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.68 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว ในระดับเดียวกับเปิดตลาดเช้า ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.67-34.78 บาท/ดอลลาร์ ตลาดรอปัจจัยใหม่เข้ามา

"บาทแกว่งตัวในกรอบกว้างพอสมควรก่อนกลับมาที่เดิม วันนี้เหมือนแบงก์ชาติจะเข้ามาดูแลไม่ให้แข็งค่าเร็วเกินไป หลัง จากวานนี้ปล่อยให้แข็งค่าลงมามากแล้ว" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้อยู่ในกรอบ 34.60-34.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.56 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.57 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0793 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0766 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,568.78 จุด เพิ่มขึ้น 5.24 จุด, +0.34% มูลค่าการซื้อขาย 35,685.04 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,584.10 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านโครงการสินเชื่อ
SMEs Transformation Loan วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ผ่านธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
(ธพว.) รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท ระยะเวลากู้ยืมไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปีในช่วง 3 ปีแรก ส่วนปีที่ 4-7 อัตรา
ดอกเบี้ยเป็นไปตามที่ ธพว. กำหนด
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอเรื่องการตั้งนิคมอุตสาหกรรมในเขตพัฒนา
เขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว เนื้อที่ประมาณ 660 ไร่ สัญญาเช่า 50 ปี มูลค่าการลงทุนโครงการ 1,660 ล้านบาท
  • กระทรวงพลังงาน คาดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีคในปี 2560 นี้ น่าจะเกิดพีคสูงเกิน 30,000 เมกะวัตต์ โดยเบื้อง
ต้นกระทรวงพลังงานจะรณรงค์ทุกภาคส่วน ให้ร่วมกันประหยัดไฟฟ้าผ่านมาตรการง่ายๆ เช่น การปิดดวงไฟที่ไม่ใช้ การปรับแอร์ที่
อุณหภูมิ 25 องศา การเปลี่ยนมาใช้หลอด LED เป็นต้น รวมทั้งจะมอบหมายให้กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ดำเนิน
มาตรการ Demand Response หรือ DR ซึ่งเป็นมาตรการให้ภาคเอกชน ลดการใช้พลังงานลงด้วยความสมัครใจ โดยผู้เข้าร่วม
โครงการจะได้รับเงินชดเชย 3 บาทต่อหน่วย มีเป้าหมายลดใช้ไฟฟ้าพื้นที่กรุงเทพฯ ราชบุรี นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสงคราม
และสมุทรสาคร และมีเป้าหมายลดกำลังผลิตรวม 400 เมกะวัตต์
  • คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) คาดว่าค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่เดือนพ.ค.-ส.ค.60 มีแนว
โน้มปรับเพิ่มขึ้นกว่า 20 สตางค์/หน่วย หลังราคาก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงได้รับผล
กระทบจากการจ่ายเงินสนับสนุนการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่เข้าระบบมากขึ้น และการใช้น้ำมันเตา น้ำมันดีเซลผลิตไฟฟ้าในช่วง
ปิดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯยาดานา ในเมียนมา เป็นเวลา 9 วัน ระหว่างวันที่ 25 มี.ค.-2 เม.ย.นี้
  • สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน
มี.ค.60 ในภาพรวมดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 110.24 ปรับลดลง 8.58% กลับมาอยู่ในภาวะทรงตัว
หลังจากดัชนีอยู่ในภาวะร้อนแรงในเดือนก่อนหน้าที่ 120.59 ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคอื่นทั่วโลกยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศมีแนวโน้มที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นปัจจัยหนุนตลาดทุนไทย
  • นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป เปิดเผยว่า กรีซและกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ยังคงมีความคิดเห็นที่ไม่สอด
คล้องกันในเรื่องการทบทวนนโยบายเศรษฐกิจรอบที่สอง ขณะที่รัฐมนตรีคลังจาก 19 ประเทศสมาชิกยูโรโซนเห็นพ้องกันที่จะยกระดับ
การเจรจาขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
  • ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงิน 8 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์) ผ่านทางข้อตกลงซื้อคืนธบัตร
โดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขาย
คืนในอนาคต เมื่อหักลบกับข้อตกลง reverse repo มูลค่า 5 หมื่นล้านหยวนที่ครบกำหนดชำระวันนี้ เท่ากับว่าธนาคารกลางจีนได้อัด
ฉีดเงินเข้าระบบเป็นเงินสุทธิ 3 หมื่นล้านหยวน
  • นายโจส์ ไวนัลส์ ประธานธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด กล่าวว่า ความเสี่ยงทางการเงินของจีนเป็นเรื่องที่

สามารถบริหารจัดการได้ แต่ต้องจัดการด้วยวิธีการที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง และยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจจีนในระยะยาว

โดยคิดว่ารัฐบาลจีนนั้นชาญฉลาดที่ตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ระดับ 6.5% ในปี 2560


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ