(เพิ่มเติม) ธปท.มองหากเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบอาจมีเงินทุนไหลออกบ้าง-บาทอ่อนลง แต่ยังไม่น่ากังวล

ข่าวเศรษฐกิจ Friday April 7, 2017 16:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มองว่าหากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งอาจมีผลให้เงินทุนไหลออกจากประเทศบ้าง และเงินบาทอาจจะอ่อนค่าลง แต่ผลกระทบคงไม่มากจนน่ากังวล เนื่องจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยมีความเข้มแข็ง

"ตลาดมองว่าเงินบาทจะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ในอัตราที่น้อยกว่าที่คาดไว้เดิม และน้อยกว่าสกุลอื่นในภูมิภาค ส่วนหนึ่งเพราะเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยยังแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับภูมิภาค" นายจาตุรงค์ กล่าว

นายจาตุรงค์ กล่าวว่า ธปท.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตได้ถึง 3.4% โดยมีปัจจัยบวกจากการส่งออกที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจนในหลายกลุ่มสินค้า ซึ่งคาดว่าปีนี้การส่งออกของไทยจะเติบโตได้ 2.2% ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังฟื้นตัวเร็วและมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และการใช้จ่ายภาครัฐยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีกว่าที่คาดไว้จากโครงการประชารัฐ

"เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ต่ำกว่าเป้าหมายมีเพียงปัจจัยเดียว คือ การส่งออกขยายตัวได้ต่ำกว่าที่คาด โดยเฉพาะความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าระหว่างประเทศขอสหรัฐ ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ขณะที่ปัจจัยด้านบวกที่ให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ดีกว่าเป้าหมาย คือ การลงทุนของภาครัฐสามารถเบิกจ่ายได้เป็นไปตามแผน ส่งผลต่อภาคเอกชนให้เกิดการลงทุนตาม เพิ่มเติมจากการการลงทุนที่ได้รับผลบวกจากการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัว"นายจาตุรงค์ กล่าว

สำหรับกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐมีคำสั่งให้ตรวจสอบ 16 ประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐ รวมทั้งไทยนั้น ถือเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อไปในช่วงปลายเดือน เม.ย.นี้ ว่าสหรัฐจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งคงไม่สามารถประเมินผลกระทบได้ในขณะนี้ และแม้ว่าสหรัฐจะดำเนินการตอบโต้หรือกีดกันทางการค้าจริง กระบวนการต่างๆ ก็จะต้องใช้เวลาสักระยะ ซึ่งคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะต้องมีการเจรจาระหว่างประเทศว่ามีสินค้าส่งออกรายการใดบ้างที่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบโดยไม่สมควร

ส่วนกรณีเหตุพิพาทระหว่างสหรัฐฯกับซีเรียนั้น มองว่า ขณะนี้ยังไม่กระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากนัก แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกได้บ้าง แต่คงยังไม่มากเท่ากับกรณีกลุ่มผู้ค้าน้ำมันประกาศลดกำลังการผลิต ซึ่งจะส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกมากกว่า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ