นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.64/66 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.59/61 บาท/ดอลลาร์
วันนี้เงินบาทคาดว่าจะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ แต่มีแนวโน้มไปในทิศทางอ่อนค่า หลังจากดอลลาร์สหรัฐเริ่มกลับมาแข็ง ค่า ประกอบกับ flow ช่วงนี้ชะลอลงไปแล้ว
"วันนี้บาทคงแกว่งแคบๆ แต่ทิศทางคงอ่อนค่า เพราะดอลลาร์เริ่มแข็ง ส่วน flow ช่วงนี้ก็ชะลอลง" นักบริหารเงิน
ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.60-34.70 บาท/ดอลลาร์
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 34.6625 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M (7 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.40599% ส่วน THAI BAHT FIX 6M (7 เม.ย.) อยู่ที่ระดับ 1.56838%
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.47/49 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 110.62/65 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0578/0580 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0634/0637 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.6290 บาท/
ดอลลาร์
- ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ (10-14 เม.ย.) จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.40-34.90
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยจับตาการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯเดือนมีนาคมในวันศุกร์ที่ 7 เมษายน
2560 และการเจรจาระหว่างปธน.ทรัมป์และปธน.สี จิ้นผิงของจีน
- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ (10-12 เม.ย.) ที่ 34.50-34.80
บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจในช่วงต้นสัปดาห์ น่าจะอยู่ที่การตอบรับของตลาดต่อตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ รวม
ถึงผลการหารือระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจีน ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ดัชนี
ราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนเม.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอ
ประเมินข้อมูลการส่งออกและตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ในเดือนมี.ค.ของจีนด้วยเช่นกัน
- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 98,000 ตำแหน่งในเดือนมี.
ค. หลังจากพุ่งขึ้น 219,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.
ค.2007 นักวิเคราะห์มองว่า อัตราว่างงานสหรัฐที่ลดลงเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยใน
อนาคตถี่ขึ้น
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (7 เม.ย.)
หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนมี.ค. ยูโรอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับ 1.0586 ดอลลาร์
สหรัฐ จากระดับ 1.0644 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ 111.29 เยน จากระดับ 110.86 เยน
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (7 เม.ย.) โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขจ้างงานนอกภาค
เกษตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด และเหตุการณ์สหรัฐยิงขีปนาวุธถล่มซีเรีย
- โกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในไตรมาส 1/60 จะยังคงแข็งแกร่ง โดยคาด
ว่า GDP จะเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.8% นอกจากนี้ คาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ
อาจฟื้นตัวขึ้นแตะ 1.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับระดับเดือนก.พ.ที่ 0.8%
โดยในปี 2560 นี้ จีนได้กำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจไว้ที่ราว 6.5% ขณะที่ในไตรมาส 4/2559 อัตรา การเติบโตของเศรษฐกิจจีนขยายตัวขึ้นราว 6.8% จากปีก่อนหน้า
- นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยมิชิแกนในวันนี้ โดย
ตลาดการเงินจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่าเฟดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหรือน้อยลงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ
หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ที่น้อยกว่าการคาดการณ์