นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวถึงการเลื่อนขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศ (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) ออกไปเป็นเดือน ก.ย.60 จากกำหนดการเดิมในเดือน พ.ค-มิ.ย.นี้นั้น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) อาจจะต้องกลับไปดูว่ายังติดปัญหาตรงไหน ก็ไปเร่งแก้ปัญหาในส่วนนั้น โดยยืนยันว่าโครงการยังเดินหน้าต่อไป และ สคร.จะไม่มีการยกธงขาวอย่างแน่นอน เนื่องจากคอนเส็ปต์และนโยบายต่าง ๆ ของกองทุนฯ ได้วางไว้หมดแล้ว
พร้อมกันนี้ ได้สั่งการให้ สคร. รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดให้เป็นจุดเดียว เพื่อให้นักลงทุนใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินใจเข้าร่วมลงทุน เพราะที่ผ่านมาไทยไม่มีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวไว้ที่จุดเดียว ทำให้ยากต่อการตัดสินใจ
รมว.คลัง กล่าวอีกว่า คณะนักลงทุนจากสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council : HKTDC) ที่เข้าพบแสดงความสนใจเกี่ยวกับการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) โดยเฉพาะในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ซึ่งได้มีการชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจและเชื่อมั่นมากขึ้นว่ากฎหมายร่วมลงทุนของไทยได้มีการเปิดกว้างให้นักลงทุนที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนได้
"เราได้ชี้แจงว่าประเทศไทยได้มีการแก้ไขกฎหมาย PPP เพื่อให้มีความครอบคลุมการลงทุนที่เปิดกว้างมากขึ้น และเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และแก้ปัญหาเรื่องความเสี่ยงที่จะเกิดจากการลงทุน เพราะประเด็นนี้มีความกังวลค่อนข้างมาก เราก็แก้ไขให้มีความชัดเจนและง่ายขึ้น เช่น หากโครงการใดที่ได้ผลตอบแทนดีก็ต้องจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ร่วมลงทุนมากขึ้น แต่หากโครงการไหนผลตอบแทนแย่ก็ต้องดูแลหาโครงการที่ผลตอบแทนดีกว่ามาลงทุน เป็นต้น" รมว.คลัง กล่าว