นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในเดือนเม.ย.มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ จำนวน 2.82 ล้านคน ขยายตัว 6.97% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกมากที่สุด 1.87 ล้านคน รองลงมา ได้แก่ นักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรป เอเชียใต้ อเมริกา โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา ตามลำดับ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่สุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย รัสเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี ลาว อินเดีย เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ตามลำดับ
การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวดังกล่าว ก่อให้เกิดรายได้ 139,922.18 ล้านบาท ขยายตัว 7.64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย เกาหลี เยอรมนี ญี่ปุ่น และอินเดีย ตามลำดับ
ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง ม.ค.-เม.ย.60 มีจำนวนทั้งสิ้น 12,021,617 คน ขยายตัว 2.91% ตามการขยายตัวของนักท่องเที่ยว ก่อให้เกิดรายได้รวม 621,646.26 ล้านบาท ขยายตัว 4.71% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวไทย (ม.ค. - มี.ค.) มีชาวไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศรวม 49.58 ล้านคน ขยายตัว 3.22% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจังหวัดที่ชาวไทยไปท่องเที่ยวมากที่สุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นครราชสีมา เชียงใหม่ ชลบุรี และกาญจนบุรี ตามลำดับ การท่องเที่ยวดังกล่าวก่อให้เกิดการใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ คิดเป็นมูลค่ารวม 226,589.50 ล้านบาท ขยายตัว 4.60% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจังหวัดที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศสูงสุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และชลบุรี ตามลำดับ
ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (เม.ย.) อุตสาหกรรมท่องเที่ยวก่อให้เกิดประโยชน์ในรูปของรายได้แก่ประเทศและกระจายรายได้ดังกล่าวสู่ภูมิภาคต่าง ๆ รวม 8.4 แสนล้านบาท ขยายตัว 4.68% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในจำนวนนี้ เป็นรายได้ที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ 6.2 แสนล้านบาท และการท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวไทย 2.2 แสนล้านบาท
นายพงษ์ภาณุ คาดว่าในปี 2573 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยถึง 60 ล้านคน ส่งผลกระทบในด้านต่างๆ เช่น ระบบสาธารณูปโภค ระบบการขนส่ง และการรองรับนักท่องเที่ยวของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีบทบาทและร่วมกันป้องกันแก้ไขปัญหา โดยการเพิ่มระบบการอำนวยความสะดวกด้านคมนาคมขนส่งที่สามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้สะดวกมากขึ้น การจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม