นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.48 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากช่วงปิดตลาดวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.54 บาท/ดอลลาร์
วันนี้คาดว่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคและตลาดโลก เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์จากความกังวล เกี่ยวกับปัญหาการเมืองของสหรัฐ
"บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้ตามภูมิภาคและตลาดโลก เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์จนทำให้ยูโรแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือน หลังตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการเมืองของสหรัฐที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจของ ประธานาธิบดีทรัมป์" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 34.40 - 34.55 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 112.65 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 113.58 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1096 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.1044 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.4890 บาท/
- ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ธนาคารได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) 0.5% ก็จะ
- ธนาคารแห่งประเทศจีน จะพาคณะนักธุรกิจที่เป็นลูกค้าของธนาคารกว่า 100 ราย เดินทางมาไทยในวันที่ 18 พ.ค.
- ยอดการลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยสูงถึง 14 ล้านราย สะท้อนว่า คนไทยส่วนใหญ่ยังจน ขณะที่กระทรวงการคลัง
- หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ และนิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้เปิดเผยข้อมูลจากฝ่ายข่าวกรองเกี่ยวกับ
นักวิเคราะห์จากบริษัทเธมิส เทรดดิ้ง กล่าวว่า รายงานข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอน ทางการเมืองในสหรัฐ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคขัดขวางการผลักดันมาตรการปฏิรูปภาษี และการใช้จ่ายงบประมาณจำนวนมากเพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คณะทำงานของปธน.ทรัมป์เคยเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากในการผลักดันร่างกฎหมาย ประกันสุขภาพ
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุด
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านในสหรัฐลดลง 2.6% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบราย
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) ด้วย
- สหประชาชาติคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 2.7% ในปีนี้ และ 2.9% ปีหน้า เทียบกับ 2.3% ในปีที่
- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ
ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนพ.ค.โดยเฟดฟิลาเดลเฟีย