ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้อยู่ที่ 34.03/07 แข็งค่า รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร มองกรอบพรุ่งนี้ 34.00-34.10

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 31, 2017 16:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 34.03/07 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.13 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเย็นนี้ปรับแข็งค่าจากช่วงเช้า เป็นผลจากมีเงินทุนไหลเข้า โดยในช่วงนี้หลายประเทศเผชิญปัญหาทางการ เมือง จึงทำให้มีเงินทุนไหลเข้ามาที่ตลาดในภูมิเอเชียรวมทั้งไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งดูได้จากตลาดพันธบัตรที่ต่างชาติยังคงซื้อสุทธิ และ หากเป็นเช่นนี้ต่อเนื่องอาจทำให้เงินบาทมีโอกาสลงไปแตะระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ได้

"ถ้า flow ยังมีเข้ามาต่อเนื่อง ก็อาจจะหลุดระดับ 34 บาท มีโอกาส เพราะตอนนี้ฝรั่งซื้อ bond เยอะ เงินก็ไหล เข้ามาทั้งฝั่งเอเชียต่อเนื่อง" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 34.00-34.10 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 34.0642 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • ล่าสุดเงินเยนอยู่ที่ระดับ 110.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 110.97 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1180 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1172 ดอลลาร์/ยูโร
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือน เม.ย.60 ยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่ง
ออกยังขยายตัวในหลายหมวดสินค้า เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวดี สอดคล้องกับอุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ด้าน
การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากหมวดบริการเป็นสำคัญ ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน อย่างไรก็ตาม การผลิต
ภาคอุตสาหกรรมหดตัวตามการผลิตหมวดยานยนต์เป็นสำคัญ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐโดยเฉพาะรายจ่ายลงทุนหดตัวหลังจากเร่งเบิก
จ่ายในช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่ คาดว่า ภาคการส่งออกในช่วงไตรมาส 2/60 จะยังขยายตัวได้ดี แม้ว่าขณะนี้ค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นซึ่งเป็นผล จากกำลังซื้อจากต่างประเทศ ในส่วนอัตราแลกเปลี่ยนมีการเคลื่อนไหวแบบแกว่งตัว ทั้งอ่อนค่าและแข็งค่า แต่การส่งออกไม่ได้ดู เฉพาะค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์เพียงอย่างเดียว คงต้องดูการเปรียบเทียบกับสกุลเงินของประเทศคู่ค้าอื่นๆ ด้วย

  • สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ประจำเดือน เม.ย.60 อยู่ที่
100.07 หดตัว 1.7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลง 20.03% จากเดือน มี.ค.60 โดยอุตสาหกรรมยายนยนต์ยังคงหด
ตัวต่อเนื่อง เป็นผลจากการส่งออกไปยังประเทศในตะวันออกกลางยังคงหดตัว ประกอบกับ เดือน เม.ย.มีวันหยุดต่อเนื่องเป็นเวลา
ยาวนานกว่าปีก่อน ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตลดลง

อย่างไรก็ตาม จากการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่อง รวมทั้งการนำเข้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป (ไม่รวมทองคำแท่ง) ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 13.1% ส่งสัญญาณการเตรียมการผลิตในไตรมาสหน้า แสดงให้เห็นภาพเศรษฐกิจภายในประเทศดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในระหว่างเป็นประธานเปิดงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX -
World of food Asia 2017 ว่า ปัจจุบันไทยส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารเฉลี่ยปีละ 800,000 ล้านบาท และปีนี้คาดว่าจะมี
มูลค่า 26,538 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9 แสนล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้
เพียง 5%
  • มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2560 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างยั่งยืน
เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น เริ่มลดน้อยลง และตลาดเกิดใหม่ยังคงมีการขยายตัวได้ดี

ทั้งนี้ มูดี้ส์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในกลุ่ม G20 จะขยายตัวที่ระดับ 3.1% ในปี 2560 และ 2561 เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีการขยายตัวเพียง 2.6% โดยมูดี้ส์ระบุว่า นโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการค้าและการเติบ โตของเศรษฐกิจทั่วโลกนั้น ได้ลดน้อยลงแล้วในขณะนี้

  • สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกของเยอรมนีในเดือนเม.ย. ปรับตัวลด
ลง 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยอดค้าปลีกจะปรับตัวขึ้น 0.2%
  • GfK ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยตลาดชั้นนำของโลก เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรว่า ดัชนี
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนพ.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 จุดจากเดือนก่อนหน้า แตะระดับ -5
  • ธนาคารกลางจีนได้ระงับการอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ตลาดในวันนี้ เนื่องจากสภาพคล่องในตลาดอินเตอร์แบงก์ยังคงมี

เสถียรภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ