น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า จากกรณีที่ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) พบการเผยแพร่ข้อความผ่านช่องทาง Facebook ชื่อ "Op Anonymous Greece" ซึ่งระบุว่าจะโจมตีระบบสารสนเทศของหน่วยงานภาครัฐของไทย ในวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย.60 เวลา 20.10 น.- 21.00 น.นั้น ในเรื่องนี้ รมว.ดีอี ได้สั่งการให้เฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยเครือข่ายอย่างเข้มงวด ซึ่งกระทรวงฯ มีวิธีการทำงานและมีมาตรการรองรับให้หน่วยราชการและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอนอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้ประสานให้หน่วยราชการรับทราบและเฝ้าระวัง อย่างไรก็ดี กระทรวงฯ ไม่ได้หนักใจต่อกระแสข่าวในลักษณะนี้ เพราะมีการปฏิบัติงานดูแลความปลอดภัยตลอดเวลาอยู่แล้ว และโดยส่วนตัวมองว่าการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างประโยชน์กับใคร และไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม จึงอยากขอร้องให้ผู้ที่คิดจะดำเนินการได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม และควรทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า กสทช.ได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว โดยยินดีให้การสนับสนุนกระทรวงดีอีและหน่วยงานความมั่นคง ซึ่งเป็นหน่วยงานรักษาการตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ขณะเดียวกันพร้อมที่จะเป็นผู้ประสานไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและผู้ให้บริการวงจรสื่อสารระหว่างประเทศให้เฝ้าระวังความปลอดภัยเครือข่ายอย่างเข้มงวด
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ได้จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจคอยติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งมีหนังสือสั่งการผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ไอเอสพี) และผู้ให้บริการวงจรสื่อสารระหว่างประเทศ (ไอไอจี) ทุกรายเฝ้าระวังความปลอดภัยเครือข่ายอย่างเข้มงวด รวมถึงเตรียมการรับมือกับผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
"เบื้องต้น กสทช. ได้มีหนังสือสั่งการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และไอเอสพี เตรียมการรับมือผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย" เลขาธิการ กสทช.ระบุ
สำนักงาน กสทช. พร้อมสนับสนุนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และหน่วยงานความมั่นคงซึ่งเป็นหน่วยงานรักษาการตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ในการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่
ด้านนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดีอี กล่าวว่า ได้ประสานไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งข่าว และเตรียมการรับมือการโจมตีในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะหน่วยงานที่เป็นกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญยิ่งยวด (Critical Infrastructure) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยแล้ว นอกจากนี้ให้ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) เตรียมพร้อมเฝ้าระวังการโจมตีของหน่วยงานในระบบป้องกันที่ประมาณ 200 หน่วยตลอด 24 ชั่วโมง