กกพ.สรุปยอดยื่นคำขอเป็นเจ้าของโครงการโซลาร์ฟาร์ม สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร เฟส สอง กว่า 700 ราย กว่า 3,500 เมกะวัตต์ สูงกว่าเป้าหมายรับซื้อถึง 16 เท่า
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า การยื่นคำขอเป็นเจ้าของ โครงการเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ ภาคการเกษตร (โซลาร์ฟาร์ม) ในเฟส 2 ปีนี้ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 29 พ.ค.-2 มิ.ย.60 มีผู้ประสงค์ยื่นคำขอเป็นเจ้าของโครงการรวม
ทั้งสิ้น 720 ราย และคิดเป็นปริมาณการเสนอขายไฟฟ้ารวมทุกเขตพื้นที่เป็นจำนวน 3,510.46 เมกะวัตต์ ซึ่งเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่
วางไว้ในเฟสสอง จำนวนรวม 219 เมกะวัตต์ ยังคงสูงกว่าเป้าหมาย โดยแบ่งประเภทผู้ยื่นคำขอได้ดังนี้
หน่วยงาน จำนวน : ราย รวมจำนวนเสนอขายไฟฟ้า:เมกะวัตต์(MWp)1.หน่วยงานราชการ
- มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ 3 15.00- องค์การที่รัฐจัดตั้งขึ้น
2.สหกรณ์ภาคการเกษตร
- สหกรณ์การเกษตร/สหกรณ์นิคม/
ส่วนข้อมูลการเสนอขอขายไฟฟ้า สำหรับปริมาณเสนอขายในเขตพื้นที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่ยื่นมาในครั้งนี้
มีปริมาณการเสนอขายไฟฟ้ารวม 3,485.46 เมกะวัตต์ สูงจากเป้าหมายการจัดหา 194 เมกะวัตต์ เกือบ 18 เท่า โดยมีราย
ละเอียดเป้าหมายการจัดหาไฟฟ้าและยอดรวมเสนอขาย ได้ดังนี้
พื้นที่ ผู้ยื่นเสนอขายไฟฟ้า:ราย จำนวนเสนอขายไฟฟ้า:MWp เป้าหมายรับซื้อระยะที่ 2:MWp 1.การไฟฟ้านครหลวง 5 25 25 2.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 715 3,485.46 194 รวม 720 3,510.46 219โฆษก กกพ.กล่าวว่า หลังจากนี้จะเริ่มเข้าสู่การพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ยื่นคำขอเป็นเจ้าโครงการเป็นอันดับ แรก เพื่อประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ประสงค์จะเป็นเจ้าของโครงการได้ในวันที่ 14 มิถุนายน 2560 ซึ่งจะปิด ประกาศเผยแพร่ที่สำนักงาน กกพ. และทางเว็บไซต์ www.erc.or.th และเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกผู้ที่ผ่านการตรวจคุณสมบัติ โดยวิธีจับฉลากในวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบไทค HALL 105 ชั้น 1 โดยจะเปิดให้ลงทะเบียน ตั้งแต่เวลา 08.00-09.30 น. ทั้งนี้ในส่วนของรายละเอียดเรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจับสลากนั้น สำนักงาน กก พ. ได้ออกประกาศและนำเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานฯ แล้ว