นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 33.99 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากตอน เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.01/03 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 33.95-34.05 บาท/
"ช่วงเช้ามีแรงเทขายดอลลาร์เมื่อเทียบสกุลหลัก แต่พอช่วงบ่ายมีการเด้งกลับหลังลงไปแตะ 33.95 บาท/ดอลลาร์ ซึ่ง ช่วงนี้ปัจจัยหลักที่นักลงทุนรอคอยคือผลการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า เฉพาะสัปดาห์นี้ที่ต้องติดตามคือวันพฤหัสซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญ หลายเหตุการณ์ คือ ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป การเลือกตั้งของประเทศอังกฤษ และกรณีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวน กลางสหรัฐ (FBI) จะแถลงต่อวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างปธน.ทรัมป์ และรัสเซีย" นักบริหารเงิน ระบุ
สำหรับวันพรุ่งนี้ นักบริหารเงิน ประเมินว่ากรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 33.95-34.10 บาท/ ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.68 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ปิดตลาดที่ระดับ 109.95 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1249 ดอลลาร์/ยุโรป จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1272 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,568.95 จุด เพิ่มขึ้น 2.10 จุด, +0.13% มูลค่าการซื้อขาย 41,596.02 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 61.57 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า จากกรณีเงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นค่อนข้างเร็ว
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ดำเนินโครงการทางพิเศษสายพระ
- ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางหลังหลายประเทศในอาหรับได้ประกาศตัด
- นายกรัฐมนตรี ได้กำชับในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องดำเนินงานร่วมกับประเทศ
- นายบุญยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ คาดว่าภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัวชัดในช่วงครึ่งหลังปี
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบในวันนี้ ผ่านทางโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) เพื่อบรรเทา
ภาวะสภาพคล่องตึงตัวตามฤดูกาล