พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในวันนี้ว่า รัฐบาลจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล เนื่องจากยังมีความจำเป็นต้องลงทุนเพื่อพัฒนาประเทศ โดยมีวงเงินงบประมาณรายจ่ายรวม 2.9 ล้านล้านบาท จากประมาณการจัดเก็บรายได้ 2.5 ล้านล้านบาท ซึ่งต้องจัดสรรให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น 1.1 แสนล้านบาท คงเหลือใช้จ่าย 2.45 ล้านล้านบาท ทำให้มีความจำเป็นต้องกู้เงินอีก 4.5 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 กำหนดสัดส่วน 74.2% เป็นงบรายจ่ายประจำ 22.8% เป็นงบรายจ่ายลงทุน และอีก 3% เพื่อชำระหนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวทางการจัดทำงบประมาณของรัฐบาลจะยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง แนวนโยบายของรัฐบาล รัฐธรรมนนูญ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
"รัฐบาลจะจัดทำงบประมาณแบบสมเหตุสมผล อาจเติบโตช้าแต่มั่นคงและยั่งยืน ผสมผสานทั้งแบบตะวันออกและตะวันตก" พล.อ.ประยุทธ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ประเทศมีความจำเป็นต้องลงทุนพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ ซึ่งจะพิจารณาถึงความสมดุล และหวังว่าจะไม่ถูกประชาชนออกมาคัดค้านไปทุกเรื่อง โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบย่อยโครงการเล็กลงเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้มากขึ้น
"สิ่งที่รัฐบาลทำในวันนี้เพื่อเป็นประวัติศาสตร์ในวันหน้า แก้ปัญหาที่เป็นกับดักในเรื่องต่างๆ" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจของประเทศขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากที่ติดลบเมื่อครั้งที่เข้ามาบริหารประเทศ โดยในปี 59 ขยายตัว 3.2% และในปี 60 คาดว่าจะขยายตัว 3.3-3.8% ส่วนปี 61 ประมาณการว่าจะขยายตัวราว 3.3-4.3% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ระดับ 1.5-2.5% ซึ่งภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันถือว่ามีเสถียรภาพพอควร โดยมาจากการเติบโตด้านการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุนภายในประเทศ
ทั้งนี้ การที่เศรษฐกิจของประเทศขยายตัวได้ถึงระดับ 3-4% ต่อปี ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะระบบเศรษฐกิจของไทยมีฐานใหญ่ ดังนั้น ไม่ควรนำไปเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่เพิ่งเริ่มลงทุนพัฒนาประเทศทำให้มีอัตราขยายตัวพุ่งไปถึง 7-8% ต่อปี
"ฐานะคงคลังของประเทศมีเงินสำรองนับถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 ที่ 1.84 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3.5 เท่าของหนี้ระยะสั้น ถือว่าอยู่ในระดับมั่นคง เศรษฐกิจมีเสถียรภาพ" พล.อ.ประยุทธ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจจากความผันผวนของเงินลงทุนจากต่างประเทศ, อัตราแลกเปลี่ยน, นโยบายของสหรัฐ, ราคาน้ำมัน เป็นต้น
อนึ่ง นายกรัฐมนตรีใช้เวลาในการชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ กว่าสองชั่วโมง