ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.98 แกว่งในกรอบแคบ หลายปัจจัยยังเอื้อดอลล์แข็ง มองกรอบพรุ่งนี้ 33.95-34.05

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 21, 2017 17:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.98 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.01 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทยังวิ่งอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากปัจจัยในช่วง 1-2 วันนี้ยังเป็นปัจจัยเดิมจากการออกมาให้ความเห็นของ ประธานธนาคารกลางสหรัฐในแต่ละสาขา ซึ่งส่วนใหญ่ยังมีความเห็นไปในทิศทางที่เชื่อว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกภายในปีนี้

ในขณะที่ด้านของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มองว่าขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาเหมาะสมที่อังกฤษจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นโยบาย จึงส่งผลให้เงินปอนด์อ่อนค่า ดังนั้นจึงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับแข็งค่าขึ้นในช่วงนี้

"จริงๆ เงินบาทก็ยังวิ่งอยู่ในกรอบนี้ ช่วงนี้มี comment จากประธานเฟดหลายสาขามองว่ามีโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย ได้อีกในปีนี้ จึงทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.95 - 34.05 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.12/17 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 111.34 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1145/1146 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1134 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,577.01 จุด ลดลง 1.61 จุด (-0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 42,737 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 633.60 ลบ.(SET+MAI)
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพ.ค.2560 อยู่
ที่ระดับ 85.5 ปรับตัวลดลงจากระดับ 86.4 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 โดยปัจจัยเสี่ยงที่ผู้
ประกอบการมองว่าส่งผลกระทบต่อการประกอบกิจการในเดือนพ.ค. ยังคงเป็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ผู้ประกอบการจะต้องรับมือกับ
เงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้กระทบต่อการบริหารต้นทุนของผู้ประกอบการส่งออก ส่วนในด้านการดำเนินกิจการ พบ
ว่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมยังมีปัญหาเงินทุนหมุนเวียน การขาดแคลนแรงงาน และต้นทุนด้านราคาวัตถุดิบที่
ปรับตัวสูงขึ้น
  • ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ในเดือนพ.ค.60 การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปอยู่ที่ 90,092 คัน ลดลง 9.5% จาก พ.ค.59
โดยเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 ในทุกตลาด คิดเป็นมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 48,014.47 ล้านบาท ลดลง 12.69% จาก
พ.ค.59 ขณะที่ยอดรวมในช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค.60 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 443,320 คัน ลดลง 9.12% จากช่วงเดียวกันของปี
59 คิดเป็นมูลค่าการส่งออก 233,899.69 ล้านบาท ลดลง 10.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ส.อ.ท. ประเมินว่ายอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในปีนี้ อาจต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.2 ล้านคัน หลังจากช่วง 5
เดือน (ม.ค.-พ.ค.60) มียอดส่งออกลดลง 9.12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะยอดส่งออกไปตลาดตะวันออกกลางที่ลด
ลงอย่างมากหลังได้ออกระเบียบเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานเพื่อลดมลพิษ
  • รายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รอบวันที่ 26-27 เม.ย. ซึ่งได้มีการเผยแพร่ในวันนี้ ระบุว่า
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ BOJ หลายคนมีความคิดเห็นตรงกันว่าการปรับตัวขึ้นของค่าแรงและเงินเฟ้อในญี่ปุ่น
ยัง "ค่อนข้างอ่อนแอ" แม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้นก็ตาม

สถานการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ภารกิจของ BOJ ในการผลักดันญี่ปุ่นให้บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ไม่มีความคืบ หน้า แม้ว่ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินอย่างหนักจะถูกดำเนินการไปแล้วก็ตาม โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวม ราคาอาหารสด พลิกขยายตัวในเดือนม.ค. แต่กระนั้นก็ยังคงใกล้ระดับ 0%

  • นายจอง อึน โบ รองประธานคณะกรรมการบริการการเงินเกาหลีใต้ (FSC) เปิดเผยในการประชุมกำหนดนโยบาย

ในวันนี้ที่กรุงโซลว่า คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเกาหลีใต้เป็นมูลค่าราว 6 แสนล้านวอน ถึง 4.3 ล้านล้านวอน

(525.92 ล้านดอลลาร์ ถึง 3.77 พันล้านดอลลาร์) สืบเนื่องจาการที่ MSCI ประกาศนำหุ้น A share ของจีนเข้ารวมในการ

คำนวณดัชนี MSCI Emerging Markets Index (MSCI EM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ