ก.เกษตรฯ ตั้งเป้าลดความเสี่ยงจากอุทกภัยด้านการเกษตรปี 59/60 ลง 425 ลบ. หลังเดินหน้าตาม 4 แผนงาน

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 26, 2017 15:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีรพันธ์ คอทอง รองโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่า จะลดความเสียหายของภาคเกษตรลดลง 25% ของวงเงินการช่วยเหลือเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง คิดเป็นมูลค่าที่ละลดลงประมาณ 425 ล้านบาท หากดำเนินการตามแผนเตรียมความพร้อมเพื่อลดความเสี่ยงจากอุทกภัยด้านการเกษตร ปี 59/60 ที่ได้แบ่งออกเป็น 4 แผนงาน 41 กิจกรรม วงเงิน 7,807.64 ล้านบาท ประกอบด้วย

1) การป้องกันและเตรียมความพร้อมเพื่อลดผลกระทบ 3 ด้าน ได้แก่ การติดตามสภาพอากาศ/ปริมาณน้ำแผนบริหารจัดการน้ำรายจังหวัดกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำและบำรุงรักษาพื้นที่รับน้ำ ปฏิบัติการฝนหลวง การปรับรอบการผลิตในพื้นที่ลุ่มต่ำการจัดทำคันป้องกัน/Flood Way การปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรการแนะนำการลดความเสี่ยงตรวจสอบฟาร์มสัตว์ดุร้ายแผนอพยพปศุสัตว์/บริหารพื้นที่อพยพ จัดทำบัญชีทรัพยากร เครื่องมือ อุปกรณ์ เสบียงสัตว์ เวชภัณฑ์ รวมทั้งการซักซ้อมแนวปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่การซักซ้อมระบบแจ้งเตือนสร้างความเข้าใจความเสี่ยง

2) การเผชิญเหตุ ได้แก่ การปรับแผนการบริหารน้ำ ติดตั้งเครื่องจักรเร่งระบายน้ำ เสริมคันกันน้ำ ทำนบชั่วคราว แจ้งเตือนพื้นที่ท้ายน้ำ การเสริมคันป้องกัน/สร้าง Flood Way เก็บผลผลิตเกษตร สัตว์น้ำ จำหน่ายอพยพปศุสัตว์/บริหารพื้นที่ส่งกำลังบำรุงเข้าพื้นที่ รวมทั้งระดมเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นและแนะนำเกษตรกรสื่อสารข้อมูลสถานการณ์น้ำและพื้นที่ปลอดภัย

3) การหยุดยั้งความเสียหาย การสำรวจพื้นที่น้ำท่วมขังเกษตรเสริมกำลัง เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่เกษตรลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรที่สำคัญ การตรวจ วินิจฉัย ป้องกันและกำจัดโรคพืช สัตว์ ประมง สนับสนุนเวชภัณฑ์เพื่อป้องกันการระบาดของโรคที่เกิดจากน้ำ บำบัดน้ำเสียและขจัดกลิ่นเหม็นในพื้นที่เกษตรกรรมโดยใช้น้ำหมักชีวภาพ พด. 6 คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ ประเมินความเสียหาย แจ้งสิทธิการช่วยเหลือตามกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง

4) การฟื้นฟูให้ดีกว่าเดิม ได้แก่ การซ่อม/สร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านชลประทานและ Flood Way จัดทำระบบป้องกันพื้นที่เกษตรที่สำคัญ การวิเคราะห์ความเสียหายและประเมินความต้องการ/ความจำเป็นในการฟื้นฟู และจัดทำแผนฟื้นฟูของจังหวัดฟื้นฟูของสภาพดิน ปรับปรุงบำรุงดินการสร้างรายได้ระยะสั้น และส่งเสริมการผลิตให้ดีกว่าเดิม การช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการปรับเปลี่ยนกิจกรรมการผลิตการปรับรอบการผลิตการจัดทำแนวป้องกัน

ทั้งนี้ การปฏิบัติตามแผนได้เริ่มตั้งแต่เดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยการปรับแผนบริหารจัดการน้ำ การส่งเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำ 112 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 26 เครื่อง ส่งผลให้พื้นที่น้ำท่วมขังสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ภายใน 4-7 วัน พื้นที่ได้รับผลกระทบที่จะสร้างความเสียหายต่อผลผลิตทางเกษตรลดลง 306,462 ไร่ ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ อุทกภัย จำนวน 22 จังหวัด 99 อำเภอ 514 ตำบล 3,544 หมู่บ้าน 45 ชุมชน โดยกระทรวงได้สั่งการเร่งรัดให้สำรวจตรวจสอบความเสียหายสิ้นเชิง เพื่อให้เกษตรกรได้รับสิทธิตามระเบียบราชการภายในเวลาไม่เกิน 3 เดือน

นอกจากนี้ ได้จัดตั้งศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) โดยบูรณาการข้อมูลของแต่ละหน่วยงานเพื่อวิเคราะห์ ประเมิน รวมทั้งถอดบทเรียนการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยจัดทำและบริหารข้อมูลเพื่อการแจ้งเตือน การป้องกัน และเตรียมพร้อมเพื่อลดผลกระทบต่อภาคเกษตรให้มากที่สุด โดยจะเร่งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรทุกด้าน เพื่อให้กระบวนการให้ความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทั่วถึง พร้อมทั้งพัฒนา ขยายเพิ่มช่องทางการแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารแก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง และรวดเร็วเพื่อให้เกษตรกรสามารถเตรียมพร้อมรับมือและลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เมื่อเกิดความเสียหาย และสามารถนำมาใช้สิทธิได้ทันที

อย่างไรก็ตาม การป้องกันและเตรียมความพร้อมเพื่อลดความเสี่ยง การเผชิญเหตุ การพัฒนาฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ต้องอาศัยกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ดังนั้น ก.เกษตรฯ จึงขอความร่วมมือเกษตรกร ในการประกอบอาชีพด้วยความระมัดระวัง สร้างภูมิคุ้มกัน ปรับตัวให้สอดคล้องกับธรรมชาติ ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ