นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 34.03 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่เปิด ตลาดอยู่ที่ 34.01 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันทำ Low ที่ 33.98 บาท/ดอลลาร์ และ High ที่ 34.04 บาท/ดอลลาร์
"หลังมีผลการประชุม กนง.ออกมาว่าคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5% ตามคาด เงินบาทก็ลงไปแตะ 33.98 สักพักก็มีแรง ซื้อดอลลาร์เข้ามา แต่ก็เป็นไปตามทิศทางเดียวกับภูมิภาค เกาะกลุ่มกันไปกับภูมิภาค...คืนนี้ตลาดรอดูบันทึกรายงานผลการประชุม FOMC ว่าจะส่งสัญญาณเรื่องการลดขนาดงบดุลหรือไม่อย่างไร" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.95-34.10 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 113.64 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 113.01 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1314 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1356 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,575.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด, +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 34,001.62 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 32.03 ลบ.(SET+MAI)
- ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2560 เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 60 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คง
อัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปีตามตลาดคาดการณ์
- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทยในปี 60 เพิ่มขึ้นเล็ก
น้อยเป็น 3.5% จากเดิมที่คาดไว้ 3.4% จากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวดีขึ้น ทำให้ กนง.ปรับเพิ่มคาดการณ์การส่งออกในปีนี้เป็น
5.0% จากเดิมที่คาดไว้เพียง 2.2%
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ระบุกรณีกนง. มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นับเป็น
การลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ครั้งที่ 17 ติดต่อกัน โดยค่าเงินบาทซื้อขายอยู่ใกล้ระดับ 33.98 บาท/ดอลลาร์ หลังจากการประชุม กน
ง.
- ธนาคารไทยพาณิชย์ คาดกนง. คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ตลอดทั้งปี 2560 เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจไทยที่ยัง
คงขยายตัวแบบกระจุกตัว การลงทุนที่ขยายตัวช้า และเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด
- ธนาคารทหารไทย (TMB) มองแนวโน้มเงินบาทครึ่งปีหลังว่า ยังมีเสถียรภาพและอาจแข็งค่าได้อีก ซึ่งที่ผ่านมาเงิน
บาทมีทิศทางแข็งค่าชัดเจน แต่ยังไม่กระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของประเทศมาก สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทในระยะต่อไป
ทีเอ็มบี ประเมินว่าค่าเงินบาทมีโอกาสแข็งค่าได้อีกในช่วง 33.60-33.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐในช่วงปลายปีนี้
ขณะที่ยังคงคาดการณ์ GDP ไทยปีนี้โตได้ 3.3% แม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับเป้าหมาย GDP ปีนี้ขึ้นไป แล้ว เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนยังไม่ได้มาตามการลงทุนของภาครัฐ
- ญี่ปุ่น และ สหภาพยุโรป (EU) จะเข้าสู่การเจรจาช่วงสุดท้ายเพื่อบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีในวันนี้ หลังจากที่เจรจา
ต่อรองกันมานานถึง 4 ปี โดยเฉพาะประเด็นความเหลื่อมล้ำทางภาษียานยนต์ของญี่ปุ่น รวมถึงผลิตภัณฑ์ชีสและไวน์ของยุโรป ซึ่งถือ
เป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางความคืบหน้าของการเจรจาดังกล่าว
- รัฐบาลอิตาลีได้เข้าควบคุมการดำเนินงานของธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena (BMPS)
ธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ผ่านการอัดฉีดเงินช่วยเหลือมูลค่า 5.4 พันล้านยูโร ( 6.1 พันล้านดอลลาร์) ให้กับทาง
ธนาคาร