ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.08 อ่อนค่ากว่าภูมิภาค จับตาดีล SCB ขายธุรกิจประกันชีวิต-ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 6, 2017 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.08 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเช้าที่ระดับ 34.03 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 34.01-34.08 บาท/ดอลลาร์ เป็นผลจาก ปัจจัยในประเทศกรณีล้มดีลขายหุ้นในธุรกิจประกันชีวิตของธนาคารไทยพาณิชย์ให้กับต่างประเทศ ทำให้เม็ดเงินจากต่างประเทศที่คาด ว่าจะไหลเข้ามาต้องเลื่อนออกไป นอกจากนี้ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่หอการค้าไทยประกาศออกมาลดลงส่งผลทาง จิตวิทยา

"บาทเคลื่อนไหวในทิศทางอ่อนค่ามากกว่าค่าเงินภูมิภาค เนื่องจากมีปัจจัยลบในประเทศ แต่เป็นผลช่วงสั้นๆ" นักบริหาร
เงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.00-34.10 บาท/ดอลลาร์

"ทิศทางบาทวันพรุ่งนี้น่าจะแกว่งตัวในกรอบ รอตัวเลขสำคัญ คือการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ คืนวันพรุ่ง นี้" นักบริหารเงิน กล่าว

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 113.39 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.05 เยน/ดอลลาร์
  • ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1365 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1339 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,569.64 จุด ลดลง 5.38 จุด, -0.34% มูลค่าการซื้อขาย 47,609.45 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,623.88 ล้านบาท(SET+MAI)
  • นายสมคิด จาตรุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีและมีความแข็งแกร่ง
และได้รับการยืนยันว่ายังไม่พบปัญหาฟองสบู่ และตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ มีการฟื้นตัวขึ้น เห็นได้จากตัวเลขประมาณการของคณะ
กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ได้ปรับเพิ่มขึ้นทั้ง GDP และประมาณการส่งออก ทำให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะไม่เผชิญวิกฤติต้ม
ยำกุ้งเหมือนเช่นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
  • ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ในเดือน มิ.
ย.60 อยู่ที่ 74.9 ลดลงจาก 76.0 ในเดือน พ.ค.60 โดยลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 63.3 ลดลงจาก 64.3 ในเดือน พ.ค.60

  • สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง คาดว่าจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
โดยทั้งปี 60 จะขยายตัวได้ในกรอบ 3.5-4% จากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ และ การส่งออกฟื้นตัวอย่างชัดเจนและมี
แนวโน้มขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ โดยคาดว่าการส่งออกทั้งปีจะขยับเข้าใกล้เป้าหมาย 5% ของกระทรวงพาณิชย์
  • สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เตรียมปรับประมาณการ GDP ปีนี้เพิ่มขึ้น หลังจากปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ปรับตัวดีขึ้นหลายตัว โดยเฉพาะตัวเลขส่งออกที่ขยายตัวได้สูงกว่าคาดการณ์
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปี 60 เป็นขยายตัว 3.4%
จากเดิมที่คาดว่าขยายตัวได้ 3.3% จากการขยายตัวของตัวเลขการส่งออกที่ดีกว่าคาด และได้ปรับเพิ่มการขยายตัวของการส่งออก
เป็นขยายตัว 3.8% จากเดิมที่คาดว่าขยายตัวได้ 2% เพราะเศรษฐกิจของคู่ค้าหลักได้ฟื้นตัวขึ้นเป็นปัจจัยหนุนการส่งออก
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมปรับแผนการดำเนินงานเพื่อชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป
จาก กฎเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อควบคุมสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เบื้องต้นไม่ได้รับผลกระทบ
ในปีนี้ แต่จะมีผลกระทบเกิดขึ้นในปี 61
  • คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เห็นชอบแนวทางการพัฒนาท่าเรือน้ำ
ลึกหลัก 3 แห่ง (แหลมฉบัง สัตหีบ มาบตาพุด) โดยมีรถไฟทางคู่เข้าเชื่อมโยง พร้อมทั้งระบบบริการการขนส่งสินค้าแบบไร้รอยต่อ
(Seamless Operation) เป็นโครงการหลักที่จะยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจระดับโลก
  • ธนาคารกลางจีนได้ระงับการซื้อขายหลักทรัพย์หรือพันธบัตรของทางการ (Open market operation หรือ OMO)
เป็นวันที่ 10 ติดต่อกันในวันนี้ เนื่องจากสภาพคล่องที่ค่อนข่างสูงในระบบธนาคาร
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 ร่วมมือกันลดภาวะไร้ดุลยภาพทาง

เศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจทั่วโลกให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ