นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.86 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า จากเปิดตลาดเช้าที่ระดับ 33.92 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออก โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวใน กรอบ 33.86-33.94 บาท/ดอลลาร์
"บาทแข็งค่าต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงท้ายตลาดแข็งค่าสุดของวันตามแรงเทขายดอลลาร์ของผู้ส่งออก" นักบริหารเงิน
ระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า สัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.75-34.10 บาท/ดอลลาร์ นักลงทุนจับตาดูการ ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกของสหรัฐฯคืนนี้
- ปัจจัยสำคัญ
- เย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ 113.21 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 113.52 เยน/ดอลลาร์
- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ 1.1412 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1403 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,577.79 จุด ลดลง 1.62 จุด, -0.10% มูลค่าการซื้อขาย 34,740.29 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 403.95 ล้านบาท(SET+MAI)
- ธนาคาร ซี ไอเอ็มบี ไทย คาดเงินบาทในสัปดาห์หน้า(17-21 ก.ค.) จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 33.80-34.15
บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยแรงขับเคลื่อนหลักมาจาก
การส่งออกสินค้าและบริการ ขณะที่การใช้จ่ายภาคเอกชนยังฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ส่วนแรงกระตุ้นภาคการคลังยังมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจ
แม้การลงทุนบางส่วนล่าช้ากว่าที่คาดไว้
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 นักท่องเที่ยวจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
จากหลายปัจจัย อาทิ การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป และจีน ซึ่งส่งเสริมให้เกิดการเดินทางระหว่างประเทศ, การฟื้นตัวสู่
แนวโน้มปกติของนักท่องเที่ยวจีน เป็นต้น
- ธนาคารซิตี้แบงก์ มองว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการออกเกณฑ์กำหนดเพดานการอนุมัติวงเงิน
และจำนวนการถือบัตรของลูกค้าที่สมัครบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคาร คงไม่มีผลกระทบมากนักต่อธนาคาร เพราะปัจจุบัน
ธนาคารมีการปรับตัวให้กับกฏเกณฑ์ต่างๆ อยู่ตลอด อีกทั้งฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารซิตี้แบงก์มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท/
เดือน ทำให้ธนาคารไม่มีความกังวลในเรื่องกฏเกณฑ์ใหม่ของ ธปท.มากในขณะนี้
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงานสัมมนา NIKKEI ASIA300 GLOBAL BUSINESS
FORUM แนะภาคเอกชนเร่งลงทุนสู่อนาคต เนื่องจากภูมิภาคเอเชียในวันนี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นที่สุด กลายเป็น
ความหวังและพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ของโลก และกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลก Asia Rise ซึ่งถือเป็น
โอกาสของภูมิภาคเอเชีย
- ผลการศึกษาของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ชี้ให้เห็นว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียจะต้องเผชิญกับ
อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นมาก และผลกระทบอื่นๆ จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพ ความมั่นคงทางอาหาร และสิ่ง
แวดล้อม ภายในสิ้นศตวรรษนี้ หากไม่ร่วมมือกันปฏิบัติตามคำมั่นที่ให้ไว้ในความตกลงปารีส
- สำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) เปิดเผยว่า แผนงบประมาณที่คณะทำงานประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ ได้ประกาศไว้เมื่อเดือนพ.ค.นั้น จะทำให้การขาดดุลการคลังของสหรัฐลดลง แต่จะไม่ถึงจุดสมดุลภายใน 10 ปีอย่างที่ทำเนียบ
ขาวได้อ้างไว้
CBO คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการคลังจะปรับตัวลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ที่ 6.93 แสนล้านดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 5.93 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2561 เมื่อประเมินจากข้อเสนอของทำเนียบขาว
- สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ยูโรโซนมีตัวเลขเกินดุลการค้า 2.14 หมื่นล้านยูโรใน
เดือนพ.ค. โดยลดลงจากระดับ 2.34 หมื่นล้านยูโรในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
- นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยคืนนี้ตามเวลาไทย เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ
และการเงินของสหรัฐ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิ.ย. ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.