นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ผลไม้ภาคตะวันออกได้ทยอยออกสู่ตลาดจนเกือบครบหมดแล้วนั้น ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมแผนรับมือผลไม้ภาคเหนือและภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ผลผลิตลำไยกำลังออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 5% และคาดว่าจะเริ่มทยอยออกมามากหลังจากนี้เป็นต้นไป ซึ่งแผนที่เตรียมไว้รองรับ คือ การเร่งระบายลำไยจากแหล่งผลิตออกสู่ตลาด การหาตลาดรองรับ โดยเฉพาะการผลักดันการส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น อินเดีย เกาหลี และรัสเซีย นอกเหนือจากตลาดจีนที่เป็นตลาดเดิม ซึ่งจะผลักดันการส่งออกทั้งในรูปลำไยสดและลำไยแปรรูป
นอกจากนี้ ยังจะช่วยส่งเสริมให้เกษตรและวิสาหกิจชุมชนในแหล่งเพาะปลูกให้นำลำไยไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น ลำไยอบแห้งสีทอง, ไวน์ลำไย เป็นต้น ซึ่งตลาดยังมีความต้องการ พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศไปเร่งรัดให้อินโดนีเซียออกใบอนุญาตนำเข้าลำไยโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการเร่งซื้อลำไยเก็บเพื่อส่งออกต่อไป
รมช.พาณิชย์ ยังกล่าวถึงปัญหามังคุดที่มีราคาตกต่ำในช่วงก่อนหน้านี้ว่า เป็นเพราะผลผลิตมังคุดภาคตะวันออกได้ออกมาล่าช้ากว่าปกติ และเมื่อผลผลิตออกมาพร้อมกับมังคุดภาคใต้จึงส่งผลกระทบต่อราคา แต่ขณะนี้มังคุดภาคตะวันออกได้ออกสู่ตลาดเกือบหมดแล้ว จึงทำให้ราคาปรับตัวดีขึ้น โดยราคามังคุดภาคตะวันออกเกรดคละ อยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 12-13 บาท เกรดส่งออกกก.ละ 19-20 บาท ขณะที่มังคุดใต้ เกรดคละ กก.ละ 10-19 บาท เกรดส่งออก กก.ละ 33-41 บาท
สำหรับการเตรียมแผนรับมือมังคุดใต้นั้น ได้มอบหมายให้พาณิชย์จังหวัดประสานการระบายผลผลิตออกสู่ตลาด โดยจะจัดสถานที่ให้เกษตรกรนำมังคุดไปจำหน่ายโดยตรง เช่น สถานที่ราชการ สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. และตลาดสด อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 22-30 ก.ค.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะจัดงาน Fruit Festival ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยจะนำผลไม้จากผู้ผลิตมาขายตรงถึงผู้บริโภค เพื่อช่วยระบายผลผลิตอีกด้วย
ส่วนการหาตลาดรองรับผลไม้ในภาพรวมนั้น รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงฯ มีแผนที่จะนำคณะผู้ประกอบการไทยไปเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เพื่อเปิดตลาดให้กับผลไม้ไทย และนำคณะออกไปเจรจาหาตลาดยังประเทศเป้าหมาย รวมถึงสั่งการให้ทูตพาณิชย์ของไทยที่ประจำในประเทศต่างๆ นำคณะผู้ซื้อจากต่างประเทศเข้ามาซื้อผลไม้ไทยโดยตรงโดยไม่ต้องซื้อผ่านผู้รวบรวมผลไม้ (ล้ง) ซึ่งจะทำให้สามารถผลักดันการส่งออกผลไม้ได้เร็วขึ้น
สำหรับผลผลิตผลไม้ปี 60 เป็นดังนี้ ทุเรียนภาคตะวันออก มีปริมาณ 420,000 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 97%, ทุเรียนใต้ 176,000 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 5.05%, มังคุดภาคตะวันออก 147,000 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 90%, มังคุดภาคใต้ 57,800 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 9.5%, เงาะภาคตะวันออก 192,000 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 90%, เงาะภาคใต้ 46,700 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 0.07%, ลองกองภาคตะวันออก 24,000 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 50%, ลองกองภาคใต้ 14,600 ตัน ยังไม่ออกสู่ตลาด, ลำไยภาคเหนือ 377,000 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 5.2%, ลำไยภาคตะวันออก 321,000 ตัน ยังไม่ออกสู่ตลาด และลิ้นจี่ภาคเหนือ 43,000 ตัน ออกสู่ตลาดแล้ว 98%